การวางแผนภาษีสำหรับวัยเกษียณ ลดภาระ เพิ่มเงินออม

วางแผนเกษียณ

การวางแผนภาษีสำหรับวัยเกษียณ ลดภาระ เพิ่มเงินออม

การวางแผนภาษีเป็นส่วนสำคัญของการเตรียมตัวเพื่อวัยเกษียณ การวางแผนที่ดีสามารถช่วยลดภาระภาษีและเพิ่มเงินออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้เกษียณอายุ การวางแผนภาษีล่วงหน้า และเทคนิคการบริหารภาษีหลังเกษียณ เพื่อให้คุณสามารถรักษาเงินออมไว้ได้มากที่สุด

 

อ่านบทความนี้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้

สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้เกษียณอายุ

 

ผู้เกษียณอายุในประเทศไทยมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีหลายประการที่สามารถช่วยลดภาระภาษีได้ ดังนี้

 

 1. การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้จากการเกษียณอายุ

 

– **เงินก้อนจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ**: ได้รับยกเว้นภาษีทั้งจำนวน หากเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์และเป็นสมาชิกกองทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

– **เงินก้อนจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)**: ได้รับยกเว้นภาษีทั้งจำนวน

– **เงินชดเชยจากนายจ้างกรณีเกษียณอายุ**: ได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนค่าจ้างเดือนสุดท้าย คูณด้วยจำนวนปีที่ทำงาน แต่ไม่เกิน 400,000 บาท

 

 2. การลดหย่อนภาษีสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

 

– ผู้มีเงินได้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป มีสิทธิหักลดหย่อนเพิ่มเติม 190,000 บาท

– สิทธินี้ใช้ได้เฉพาะกับผู้มีเงินได้ที่เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย

 

 3. การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ

 

– ผู้มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปสามารถได้รับยกเว้นภาษีสำหรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่มีระยะเวลาฝากตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป

– วงเงินที่ได้รับยกเว้นไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี

 

 4. สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

 

– สามารถนำเงินลงทุนในกองทุน RMF มาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี

– ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องจนอายุครบ 55 ปี และถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเต็มที่

 

 5. สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการทำประกันชีวิตแบบบำนาญ

 

– สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญมาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี

– เมื่อรวมกับเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือ กบข. แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี

 

 การวางแผนภาษีล่วงหน้าเพื่อรับเงินก้อนเมื่อเกษียณ

 

การวางแผนภาษีล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเงินก้อนที่จะได้รับเมื่อเกษียณ ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่ควรพิจารณา:

 

 1. การทยอยรับเงินก้อน

 

– แทนที่จะรับเงินก้อนทั้งหมดในปีเดียว ให้พิจารณาทยอยรับเป็นงวดๆ เพื่อกระจายภาระภาษี

– วิธีนี้จะช่วยให้คุณอยู่ในอัตราภาษีที่ต่ำกว่า และอาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมในแต่ละปี

 

2. การใช้ประโยชน์จากค่าลดหย่อนและค่าใช้จ่าย

 

– วางแผนการใช้ค่าลดหย่อนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เต็มที่ในปีที่คุณจะรับเงินก้อน

– พิจารณาการบริจาคเพื่อการกุศล ซึ่งสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้

 

 3. การลงทุนในกองทุน RMF และ SSF ก่อนเกษียณ

 

– เพิ่มการลงทุนในกองทุน RMF และ SSF ในช่วงก่อนเกษียณ เพื่อลดภาระภาษีในปีสุดท้ายของการทำงาน

– วางแผนการไถ่ถอนกองทุนเหล่านี้อย่างรอบคอบเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด

 

4. การวางแผนการใช้สิทธิประโยชน์จากประกันชีวิตแบบบำนาญ

 

– พิจารณาทำประกันชีวิตแบบบำนาญล่วงหน้าเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี

– วางแผนการรับเงินบำนาญจากประกันให้สอดคล้องกับแผนทางการเงินหลังเกษียณ

 

 5. การวางแผนการโอนทรัพย์สิน

 

– พิจารณาโอนทรัพย์สินบางส่วนให้ทายาทล่วงหน้าเพื่อลดภาระภาษีมรดกในอนาคต

– ศึกษากฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้องกับการให้และการรับมรดกอย่างละเอียด

 

เทคนิคการบริหารภาษีหลังเกษียณเพื่อรักษาเงินออมไว้ให้มากที่สุด

 

หลังจากเกษียณ การบริหารภาษีอย่างมีประสิทธิภาพยังคงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาเงินออมไว้ให้ได้มากที่สุด ต่อไปนี้เป็นเทคนิคที่ควรพิจารณา:

 

 1. การจัดสรรการลงทุนเพื่อประโยชน์ทางภาษี

 

– **การลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์**: ดอกเบี้ยจากพันธบัตรออมทรัพย์ได้รับการยกเว้นภาษี

– **การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้**: เลือกกองทุนที่จ่ายเงินปันผลน้อยเพื่อชะลอการเสียภาษี

– **การลงทุนในหุ้นปันผล**: เงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้รับเครดิตภาษี 20%

 

 2. การใช้ประโยชน์จากวงเงินยกเว้นภาษี

 

– ใช้ประโยชน์จากวงเงินยกเว้นภาษีสำหรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำสำหรับผู้สูงอายุ (ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี)

– พิจารณาการกระจายเงินฝากไปยังสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อใช้วงเงินยกเว้นภาษีให้เต็มที่

 

 3. การวางแผนการถอนเงินจากกองทุน RMF และ SSF

 

– วางแผนการถอนเงินจากกองทุน RMF และ SSF อย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษี

– พิจารณาทยอยถอนเงินเพื่อกระจายภาระภาษีและรักษาสภาพคล่องทางการเงิน

 

4. การบริหารรายได้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับยกเว้นภาษี

 

– พยายามบริหารรายได้รวมให้อยู่ในระดับที่ไม่เกินเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี (ปัจจุบันคือ 150,000 บาทต่อปี สำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป)

– พิจารณาการกระจายรายได้ระหว่างคู่สมรสเพื่อใช้ประโยชน์จากค่าลดหย่อนและอัตราภาษีที่ต่ำกว่า

 

 

 5. การใช้ประโยชน์จากการบริจาคเพื่อการกุศล

 

– บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้องค์กรการกุศลที่ได้รับการรับรอง ซึ่งสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้

– การบริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ 2 เท่า แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ

 

 6. การวางแผนภาษีสำหรับทรัพย์สินและการลงทุน

 

– พิจารณาการขายทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น (capital gain) อย่างระมัดระวัง โดยอาจทยอยขายเพื่อกระจายภาระภาษี

– ใช้ประโยชน์จากการยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 

7. การใช้สิทธิประโยชน์จากประกันสุขภาพ

 

– เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท

– พิจารณาทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ในอนาคตและใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

 

 กลยุทธ์การวางแผนภาษีระยะยาวสำหรับวัยเกษียณ

 

การวางแผนภาษีที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่เพียงการจัดการในแต่ละปีเท่านั้น แต่ควรมองภาพรวมในระยะยาวด้วย ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่ควรพิจารณา:

 

  1. **การสร้างแหล่งรายได้ที่หลากหลาย**: กระจายแหล่งรายได้เพื่อใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่แตกต่างกัน เช่น เงินปันผล ดอกเบี้ย และรายได้จากการให้เช่า

 

  1. **การวางแผนการถอนเงินจากแหล่งต่างๆ**: วางแผนการถอนเงินจากกองทุนบำเหน็จบำนาญ กองทุน RMF และแหล่งอื่นๆ อย่างเหมาะสมเพื่อรักษาระดับรายได้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เสียภาษีน้อยที่สุด

 

  1. **การพิจารณาย้ายถิ่นที่อยู่**: ศึกษาข้อดีและข้อเสียของการย้ายถิ่นที่อยู่ไปยังพื้นที่ที่มีค่าครองชีพต่ำกว่าหรือมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ดีกว่า

 

  1. **การวางแผนมรดกและการโอนทรัพย์สิน**: วางแผนการโอนทรัพย์สินให้ทายาทอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดภาระภาษีมรดกและภาษีการให้

 

  1. **การติดตามการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษี**: ติดตามข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับแผนการเงินและภาษีให้เหมาะสม

 

ข้อควรระวังในการวางแผนภาษีสำหรับวัยเกษียณ

 

แม้ว่าการวางแผนภาษีจะมีประโยชน์มาก แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรคำนึงถึง:

 

  1. **อย่าให้การประหยัดภาษีมาก่อนความมั่นคงทางการเงิน**: การตัดสินใจทางการเงินควรคำนึงถึงความมั่นคงและเป้าหมายระยะยาวเป็นหลัก ไม่ใช่เพียงเพื่อประหยัดภาษีเท่านั้น

 

  1. **ระวังการละเมิดกฎหมายภาษี**: การวางแผนภาษีควรทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลีกเลี่ยงการใช้วิธีการที่ผิดกฎหมายหรืออยู่ในเกณฑ์เทาๆ

 

  1. **คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการวางแผนภาษี**: บางครั้งค่าใช้จ่ายในการวางแผนภาษี (เช่น ค่าที่ปรึกษา) อาจสูงกว่าภาษีที่ประหยัดได้ ควรพิจารณาความคุ้มค่าโดยรวม

 

  1. **อย่าละเลยการปรับแผน**: สถานการณ์ทางการเงินและกฎหมายภาษีอาจเปลี่ยนแปลงได้ ควรทบทวนและปรับแผนการเงินและภาษีเป็นประจำ

 

บทสรุป

 

การวางแผนภาษีสำหรับวัยเกษียณเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนการเงินโดยรวม การใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ อย่างชาญฉลาด การวางแผนล่วงหน้า และการบริหารภาษีอย่างต่อเนื่องหลังเกษียณ สามารถช่วยลดภาระภาษีและรักษาเงินออมไว้ได้มากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม การวางแผนภาษีควรทำควบคู่ไปกับการวางแผนการเงินโดยรวม โดยคำนึงถึงเป้าหมายชีวิต ความต้องการด้านการเงิน และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและภาษีอาจเป็นประโยชน์ในการสร้างแผนที่เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล

 

การเริ่มวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ และปรับแผนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถเข้าสู่วัยเกษียณได้อย่างมั่นคงทางการเงินและมีความสุขกับชีวิตหลังเกษียณได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับภาระภาษีที่มากเกินไป

Related post

Featured post

Recent post Recommend post
  1. ไอเดียธุรกิจสำหรับวัยเกษียณ

  2. วางแผนการเงินวัยเกษียณอย่างชาญฉลาด คำนวณเงินที่คุณต้องการได้ง่ายๆ

  3. ประกันชีวิตแบบบำนาญ ทางเลือกเพื่อความมั่นคงหลังเกษียณ

  4. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการวางแผนเกษียณและวิธีหลีกเลี่ยง

  5. การวางแผนสุขภาพเพื่อวัยเกษียณ ลงทุนในตัวเองเพื่ออนาคต

  6. การวางแผนมรดกและการส่งต่อทรัพย์สิน คิดให้ไกลกว่าวันเกษียณ

  7. การวางแผนภาษีสำหรับวัยเกษียณ ลดภาระ เพิ่มเงินออม

  8. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษียณ

  9. การลงทุนในหุ้นเพื่อการเกษียณ โอกาสและความเสี่ยง

  10. การปรับพอร์ตการลงทุนตามวัย กลยุทธ์สู่การเกษียณที่มั่นคง

  1. อยากลงทุนเล่นเกม Axie Infinity ด้วยตัวเองต้องทำยังไงบ้าง มือใหม่ไม่ควรพลาด

  2. หารายได้จากอาชีพเสริมทำ Scholarship เล่นเกมได้เงิน

  3. 10 อาชีพอิสระที่น่าสนใจ 2564

  4. Affiliate คืออะไร เริ่มต้นยังไงและมีที่ไหนบ้าง

  5. สอนทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขายสำหรับมือใหม่ อาชีพอิสระ เพิ่มรายได้ทำง่ายด้วยตัวเอง

  6. วิธีการสร้างรายได้จาก Facebook ด้วย  facebook ads break

  7. สอนเขียนบทความTrueID In-Trend รับเงินง่ายๆแม้อยู่ที่บ้าน

  8. ตกงาน ไม่มีเงิน ต้องอ่าน! 4 งานออนไลน์ 2020 ที่ทำแล้วได้เงินเลย ไม่ต้องรอนาน

  9. อยากหาเงินกับ Google Adsense ต้องทำยังไง

  10. ชี้เป้า รับจ้างเขียนบทความ มือใหม่เขียนที่ไหนได้เงินบ้าง

บทความแนะนำ

  1. อยากลงทุนเล่นเกม Axie Infinity ด้วยตัวเองต้องทำยังไงบ้าง มือใหม่ไม่ควรพลาด

  2. หารายได้จากอาชีพเสริมทำ Scholarship เล่นเกมได้เงิน

  3. 10 อาชีพอิสระที่น่าสนใจ 2564

  4. Affiliate คืออะไร เริ่มต้นยังไงและมีที่ไหนบ้าง

  5. สอนทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขายสำหรับมือใหม่ อาชีพอิสระ เพิ่มรายได้ทำง่ายด้วยตัวเอง

TOP