Site icon irecognize

วางแผนการเงินวัยเกษียณอย่างชาญฉลาด คำนวณเงินที่คุณต้องการได้ง่ายๆ

วางแผนการเงินวัยเกษียณอย่างชาญฉลาด คำนวณเงินที่คุณต้องการได้ง่ายๆ

วางแผนการเงินวัยเกษียณอย่างชาญฉลาด คำนวณเงินที่คุณต้องการได้ง่ายๆ

วางแผนการเงินวัยเกษียณอย่างชาญฉลาด คำนวณเงินที่คุณต้องการได้ง่ายๆ

การเกษียณอายุเป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย แต่เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข การวางแผนทางการเงินที่รอบคอบเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “เราต้องการเงินเท่าไหร่สำหรับชีวิตหลังเกษียณ?” บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้วิธีประเมินความต้องการทางการเงินหลังเกษียณอย่างละเอียด พร้อมเครื่องมือที่จะช่วยให้การวางแผนของคุณแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

อ่านบทความนี้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้

 วิธีคำนวณค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ

 

การคำนวณค่าใช้จ่ายหลังเกษียณเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการวางแผนการเงิน โดยทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าคุณควรมีรายได้ประมาณ 70-80% ของรายได้ก่อนเกษียณเพื่อรักษามาตรฐานการครองชีพ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้อาจแตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์และเป้าหมายส่วนตัวของแต่ละคน

 

 1. ประเมินค่าใช้จ่ายพื้นฐาน

 

เริ่มต้นด้วยการประเมินค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ได้แก่:

 

– ค่าอาหารและเครื่องดื่ม

– ค่าที่พักอาศัย (ค่าเช่า ค่าผ่อนบ้าน หรือค่าบำรุงรักษาบ้าน)

– ค่าสาธารณูปโภค (น้ำ ไฟ โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต)

– ค่ารักษาพยาบาลและประกันสุขภาพ

– ค่าเดินทาง

– ค่าเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว

 

 2. พิจารณาค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามไลฟ์สไตล์

 

นอกจากค่าใช้จ่ายพื้นฐาน คุณควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามไลฟ์สไตล์และความต้องการส่วนตัว เช่น:

 

– ค่าท่องเที่ยวและพักผ่อน

– ค่างานอดิเรกและกิจกรรมยามว่าง

– ค่าของขวัญและการบริจาค

– ค่าใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยง (ถ้ามี)

– ค่าใช้จ่ายในการดูแลบุตรหลานหรือผู้สูงอายุในครอบครัว

 

3. ปรับเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต

 

เมื่อเกษียณ วิถีชีวิตของคุณอาจเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าใช้จ่าย เช่น:

 

– ค่าเดินทางไปทำงานอาจลดลง

– ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพอาจเพิ่มขึ้น

– ค่าท่องเที่ยวและกิจกรรมยามว่างอาจเพิ่มขึ้น

 

 4. คำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ

 

อย่าลืมคำนึงถึงผลกระทบของเงินเฟ้อต่อค่าใช้จ่ายในอนาคต โดยทั่วไป อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-3% ต่อปี ดังนั้น คุณควรปรับเพิ่มประมาณการค่าใช้จ่ายของคุณตามอัตรานี้

 

5. สร้างงบประมาณที่ยืดหยุ่น

 

สร้างงบประมาณที่มีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือเหตุฉุกเฉิน โดยทั่วไป ควรเผื่อเงินสำรองประมาณ 10-20% ของงบประมาณทั้งหมด

 

 การประมาณการอายุขัยและระยะเวลาที่ต้องใช้เงินหลังเกษียณ

 

การประมาณการอายุขัยและระยะเวลาที่ต้องใช้เงินหลังเกษียณเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการวางแผนการเงิน เนื่องจากคุณต้องแน่ใจว่าเงินที่มีจะเพียงพอตลอดช่วงชีวิตที่เหลือ

 

 1. พิจารณาอายุขัยเฉลี่ย

 

ตามข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (2564) อายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดของคนไทยอยู่ที่:

 

– ผู้ชาย: 74.3 ปี

– ผู้หญิง: 81.1 ปี

 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ย และอายุขัยจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ

 

2. ปัจจัยที่มีผลต่ออายุขัย

 

ในการประมาณการอายุขัยของตัวเอง ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

 

– ประวัติสุขภาพส่วนตัวและครอบครัว

– พฤติกรรมการใช้ชีวิต (การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์)

– สภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัย

– ความก้าวหน้าทางการแพทย์

 

 3. คำนวณระยะเวลาที่ต้องใช้เงินหลังเกษียณ

 

เมื่อประมาณการอายุขัยแล้ว คุณสามารถคำนวณระยะเวลาที่ต้องใช้เงินหลังเกษียณได้โดย:

 

ระยะเวลาที่ต้องใช้เงินหลังเกษียณ = อายุขัยที่คาดการณ์ – อายุที่คาดว่าจะเกษียณ

 

ตัวอย่างเช่น หากคุณคาดว่าจะมีชีวิตถึงอายุ 85 ปี และวางแผนจะเกษียณที่อายุ 60 ปี:

 

ระยะเวลาที่ต้องใช้เงินหลังเกษียณ = 85 – 60 = 25 ปี

 

4. วางแผนสำหรับสถานการณ์ที่แตกต่าง

 

เนื่องจากไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ การวางแผนสำหรับหลายสถานการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ:

 

– สถานการณ์พื้นฐาน: ใช้อายุขัยเฉลี่ยเป็นเกณฑ์

– สถานการณ์ที่ดีที่สุด: วางแผนสำหรับการมีอายุยืนกว่าค่าเฉลี่ย (เช่น +5-10 ปี)

– สถานการณ์ที่แย่ที่สุด: วางแผนสำหรับการมีอายุสั้นกว่าค่าเฉลี่ย

 

การวางแผนแบบนี้จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

 

เครื่องมือและแอพพลิเคชันที่ช่วยในการคำนวณ

 

ในยุคดิจิทัล มีเครื่องมือและแอพพลิเคชันมากมายที่ช่วยให้การวางแผนการเงินสำหรับวัยเกษียณเป็นเรื่องง่ายขึ้น ต่อไปนี้คือตัวอย่างของเครื่องมือที่น่าสนใจ:

 

 1. เครื่องมือคำนวณออนไลน์

 

เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

SET มีเครื่องมือคำนวณเงินเพื่อวัยเกษียณที่ใช้งานง่ายและฟรี คุณสามารถป้อนข้อมูลเช่น อายุปัจจุบัน อายุที่ต้องการเกษียณ และค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะต้องใช้ต่อเดือน

 

เว็บไซต์ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่างๆ

หลาย บลจ. มีเครื่องมือคำนวณสำหรับการวางแผนเกษียณบนเว็บไซต์ของตน ซึ่งมักจะมีฟีเจอร์ที่ละเอียดและปรับแต่งได้มากขึ้น

 

 2. แอพพลิเคชันมือถือ

 

Finansia HERO Wealth Management

แอพนี้ช่วยในการวางแผนการเงินและการลงทุน โดยมีฟีเจอร์การวางแผนเกษียณที่ช่วยคำนวณเงินที่ต้องการและวางแผนการออมและการลงทุน

 

Money Lover 

แม้จะไม่ได้เฉพาะเจาะจงสำหรับการวางแผนเกษียณ แต่แอพนี้ช่วยในการติดตามค่าใช้จ่ายและการออม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการวางแผนการเงินระยะยาว

 

– Finarich

แอพพลิเคชันไทยที่ช่วยในการวางแผนการเงินและการลงทุน มีฟีเจอร์การวางแผนเกษียณที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับบริบทของคนไทย

 

 3. โปรแกรม Spreadsheet

 

– Microsoft Excel หรือ Google Sheets 

สำหรับผู้ที่ชอบปรับแต่งการคำนวณด้วยตัวเอง การใช้โปรแกรม spreadsheet เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นมาก คุณสามารถสร้างตารางคำนวณที่ซับซ้อนและปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ

 

 4. บริการให้คำปรึกษาทางการเงินออนไลน์

 

Robo-Advisor:

บริการให้คำแนะนำการลงทุนอัตโนมัติ เช่น WealthTech และ Finnomena มักมีเครื่องมือวางแผนเกษียณที่ใช้อัลกอริธึมในการคำนวณและให้คำแนะนำ

 

SCB EASY INVEST

แพลตฟอร์มของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ให้บริการวางแผนการลงทุนและเกษียณ โดยมีทั้งเครื่องมือคำนวณและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

 

เทคนิคการใช้เครื่องมือคำนวณอย่างมีประสิทธิภาพ

 

การมีเครื่องมือที่ดีเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของความสำเร็จ การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นอีกครึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ต่อไปนี้คือเทคนิคที่จะช่วยให้คุณใช้เครื่องมือคำนวณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ:

 

 1. ใส่ข้อมูลที่เป็นจริงและแม่นยำ

 

ผลลัพธ์ของการคำนวณจะแม่นยำเพียงใดขึ้นอยู่กับความถูกต้องของข้อมูลที่คุณป้อนเข้าไป พยายามใส่ข้อมูลที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด เช่น รายได้ปัจจุบัน ค่าใช้จ่าย และอัตราการออมของคุณ

 

 2. ทดลองปรับเปลี่ยนตัวแปรต่างๆ

 

ใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของเครื่องมือคำนวณโดยทดลองปรับเปลี่ยนตัวแปรต่างๆ เช่น:

– อายุที่ต้องการเกษียณ

– จำนวนเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณ

– อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน

– อัตราเงินเฟ้อ

 

การทดลองเช่นนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ สามารถส่งผลต่อแผนการเงินระยะยาวของคุณได้อย่างไร

 

3. พิจารณาสถานการณ์หลากหลาย

 

ไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ 100% ดังนั้น การวางแผนสำหรับหลายสถานการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ใช้เครื่องมือคำนวณเพื่อสร้างแผนสำหรับ:

– สถานการณ์ที่ดีที่สุด (Best-case scenario)

– สถานการณ์ปานกลาง (Moderate scenario)

– สถานการณ์ที่แย่ที่สุด (Worst-case scenario)

 

การวางแผนแบบนี้จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

 

 4. อัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

 

สถานการณ์ทางการเงินของคุณอาจเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ดังนั้น ควรทบทวนและอัปเดตข้อมูลในเครื่องมือคำนวณอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เช่น การเปลี่ยนงาน การแต่งงาน หรือการมีบุตร

 

 5. ใช้ร่วมกับการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

 

แม้ว่าเครื่องมือคำนวณจะมีประโยชน์มาก แต่ไม่ควรใช้เป็นแหล่งข้อมูลเดียวในการวางแผนการเงิน ควรใช้ผลลัพธ์จากเครื่องมือเหล่านี้ประกอบกับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อให้ได้แผนการเงินที่เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะของคุณ

 

บทสรุป: ก้าวสู่อนาคตทางการเงินที่มั่นคง

 

การประเมินความต้องการทางการเงินหลังเกษียณเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนอนาคต แม้ว่าตัวเลขที่ได้อาจดูน่ากลัวในตอนแรก แต่การเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

 

จำไว้ว่า การวางแผนการเงินสำหรับวัยเกษียณไม่ใช่เรื่องที่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ชีวิตและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ใช้เครื่องมือและแอพพลิเคชันที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ แต่อย่าลืมว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเพียงตัวช่วย การตัดสินใจสุดท้ายยังคงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคุณเอง

 

เริ่มต้นวันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุใดหรือมีเงินออมเท่าไหร่ เพราะทุกก้าวเล็กๆ ที่คุณทำในวันนี้ จะนำไปสู่อนาคตทางการเงินที่มั่นคงและการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุขในวันข้างหน้า