Site icon irecognize

เช่ากำลังขุดบิทคอยน์อย่างไรไม่ให้โดนโกง

เช่ากำลังขุดบิทคอยน์อย่างไรไม่ให้โดนโกง

เช่ากำลังขุดบิทคอยน์อย่างไรไม่ให้โดนโกง

กระแสความนิยมของ Bitcoin และ Cryptocurrency อื่นๆ เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้การลงทุนใน Cryptocurrency จึงเริ่มเป็นอะไรที่หลายคนสนใจ  ซึ่งคนที่สนใจใหม่ๆนี้มักไม่ค่อยศึกษาเชิงลึก หรือไม่มีความรู้หรือข้อมูลที่แท้จริง และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเหล่านั้นโดนกลลวงของขบวนการลูกโซ่ ที่มักจะนำ Cryptocurrency มาบังหน้าเพื่อหาผลประโยชน์ หลายคนหาทางออกจากปัญหานี้ด้วยการลงทุนเช่ากำลังขุด แต่ก็ยังต้องมาคอยพะวงว่าเว็บที่เราทำการลงทุนไปนั้นจะปิดตัวลงเมื่อไร ซึ่งบางเว็บมาเร็วไปเร็ว ใครที่ทำในตอนแรกๆก็อาจจะได้เงิน แต่พอคนที่เข้ามาหลังๆมักจะโดนโกงกันซะส่วนใหญ่ ดังที่ได้คำพูดเล่นๆกันว่า” ใครลุกช้าจ่ายรอบวง”

ในโลกออนไลน์นั้นเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์นั้นจะอยู่กับเราได้นานกี่ปี กี่เดือน ในการ ลงทุนบิทคอยน์ หรือ เช่ากำลังขุดบิทคอยน์ มีความเสี่ยงสูงจึงต้องระมัดระวังในการลงทุนกับเว็บไซต์ต่าง ๆ

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเว็บไซต์มีความหน้าเชื่อถือ?

หากเราต้องการตรวจสอบความหน้าเชื่อถือกับเว็บไซต์ที่เราอยากลงทุนนั้นง่ายมาก เช่น

  1. เช็คอายุของโดเมนเนม หรือ ชื่อเว็บไซต์ที่เราพิมพ์ลงเบราเซอร์ซึ่งสามารถเช็คอายุโดเมนได้จากลิงค์นี้ https://www.ireallyhost.com/tools/whois-owner
  2. เช็คที่ตั้งหรือที่อยู่ว่าเว็บไซต์นั้นบอก ถึงที่อยู่ของบริษัทจริง หรือไม่
  3. เช็คความน่าเชื่อถือผ่านfeedback ตามเว็บไซต์เช่น ใน youtube พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่เราอยาก ลงทุนลงไป ดูว่ามีคลิปไหนบอกถึงความไม่หน้าเชื่อถือหรือไม่
  4. แกล้งติดต่อผ่านข้อมูลการติดต่อว่าเขาตอบกลับหรือไม่
  5. เช็คว่ารายได้ของเขานั้นมาจากไหนหากรู้ว่าเขานำเงินของเราไปทำอะไร
  6. ศึกษาที่มาที่ไปของบริษัท และเจ้าของบริษัท ว่าเคยมีข่าวเสียหายหรือไม่ และจดทะเบียนมานานแค่ไหน ผลประกอบการเป็นอย่างไร ได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งชาติหรือไม่
  7. ดูระบบความปลอดภัยที่เว็บนั้นๆมีให้ ถ้ามีระบบอย่าง 2 Factor Authentication หรือ SMS Verification และมาตรการความปลอดภัยที่ดูมีมาตรฐานเป็นสากล ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าไม่มี หรือมีแค่ไม่กี่อย่างและทำงานได้ไม่ดีด้วย ก็ให้เพิ่มความระมัดระวัง
  8. หมั่นนำเหรียญที่อยู่ในเว็บเทรดออกไปเก็บใน Wallet ที่ปลอดภัยอยู่สม่ำเสมอ

วิธีป้องกันตัวเองจากการโดนโกงการลงทุนบิทคอยน์ในรูปแบบต่างๆ

เนื่องจากความเสี่ยงสูง  เงินก็หาลำบาก คงไม่มีใครอยากสูญเสียเงิน เวลา และอารมณ์ดีๆไป แต่จะบอกว่าจะไม่มีการโดนโกงเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ การที่เราจะไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆเหล่านั้นได้ เราจึงต้องป้องกันตัวเองจาการลงทุนไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม

  1. เลือกผู้ให้บริการที่โปร่งใส จัดการอย่างมีระบบ น่าเชื่อถือ ไม่มีข่าวเสียหายในอดีต หรือถ้ามีก็ต้องพิจารณาจากการแก้ปัญหานั้นๆว่าทำได้อย่างถูกต้องและยุติธรรมต่อลูกค้าหรือไม่
  2. หมั่นนำเงินที่ได้จากการขุด Cloud Mining ออกมาเก็บในที่ที่ปลอดภัยอยู่เป็นประจำ
  3. จำเอาไว้เสมอว่า การลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนกับอะไรก็ตาม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเซียน อาจารย์ หรือปรมาจารย์ที่เก่งมาจากไหน ก็ต้องมีจังหวะที่ขาดทุนเสมอ การที่เราเจอโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มีสูญเสียเงินเลย มีแต่ได้กับได้ แถมผลตอบแทนสูงๆ นั้นในความเป็นจริง แทบจะไม่มีวันเป็นไปได้ ดังนั้นเมื่อเจอเหตุการณ์แนวนี้ ให้ใช้สติให้มากๆ สืบหาข้อมูลที่แน่นอนก่อนการตัดสินใจใด อย่าให้ความโลภเข้ามาครอบงำจนเรามองข้ามความปลอดภัย
  4. การลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่การชนะตลอดเกมส์ แต่เป็นการเอาตัวรอดให้ได้ในทุกสถานการณ์ เราต้องมีความรู้ รู้เวลา รู้จังหวะ รู้ระงับใจตนเอง ทำตามวินัยที่เราวางแผนเอาไว้อย่างเคร่งครัด
  5. หาข้อมูลให้รอบด้าน ซึ่งเว็บ org เป็นที่รวมเว็บหรือเหรียญที่หลอกลวงชาวบ้านไว้โดยเป็นฝีมือของผู้ใช้งานทั่วไปในวงการ Cryptocurrency ที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้ามีชื่ออยู่ในเว็บนี้ก็ให้ระวังตัวไว้ให้มากยิ่งขึ้น
  6. ถ้าหากเรากลัวว่าจะจอกับ Cryptocurrency ปลอม ให้เราลองเข้าไปตรวจสอบที่เว็บCoinmarketcap

แล้วลองเอาชื่อเหรียญที่เรากลัวว่าจะปลอมไปหาดูถ้าไม่เจอชื่อเหรียญ ก็ควรคิดให้มากๆๆว่าเราจะลงทุนดีหรือไม่หรือเราจะรับความเสี่ยงนั้นไหวไหม  เพราะเว็บนี้คือเว็บที่รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนทั้ง Market Cap และ Daily Trade Volume ของแต่ละเหรียญ ถ้าเค้ามาอยู่ในเว็บนี้แล้ว แปลว่าต้องมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง

สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกให้เราควรหลีกเลี่ยงหรือใช้ความคิดวิจารณญาณให้มากๆ

  1. มักมีการชวนเชื่อว่าได้ผลตอบแทนสูงความเสี่ยงต่ำ หรือไม่มีความเสี่ยงเลย
  2. มีการนำระบบของการเชื้อเชิญคนเพิ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือมีลำดับขั้นอัพไลน์ดาวน์ไลน์ ถ้าเจอแบบนี้ก็ให้ระวังเอาไว้เลยว่าอาจจะเป็นแชร์ลูกโซ่เพราะการทำกำไรกับ Cryptocurrency ได้มาจากการแลกเปลี่ยนและความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี ไม่ใช่รูปแบบจากการเชื้อเชิญ
  3. ไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้าง หรือใครเป็นเจ้าของ ส่วนใหญ่มักใช้การแอบอ้างว่ามีคนดังๆระดับต่างๆเข้ามาทำหรือเป็นหุ้นส่วน เราต้องศึกษาหรือ สืบหาข้อมูลดี ก่อนการตัดสินใจ
  4. ไม่มีการจดทะเบียนเป็นบริษัท หรือเพิ่งจดทะเบียนใหม่ๆ หรือจดทะเบียนมานานพอสมควรแต่ไม่เห็นผลประกอบการที่แน่นอน

ความต้องการ Cryptocurrency  หรือBitcoin ในปัจจุบันยิ่งทำเงินมหาศาลหรือความต้องการยิ่งมีมากขึ้นเท่าไร มักจะมีช่องโหว่ให้คนที่ชอบฉวยโอกาส หากินจากความประมาทและความไม่รู้ของคนอื่นเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตัวเองดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามเราควรมีการศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนอยู่เสมอ เพื่อป้องกันตนเองจากการสูญเสียเงินหรือภัยอันตรายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเราเองต่อไป

สนใจไออเดียในการหาเงินออนไลน์คลิก