ขนม ของว่าง หรือของทานเล่น จะเป็นอะไรที่คนซื้อได้ง่าย เพราะแค่อยากกินก็จะตัดสินใจซื้อแล้ว ทำให้ของเหล่านี้มักขายดีและกำไรงาม การจะขายขนมหรือของว่าง ก็มีตั้งแต่ลงทุนสูง ลงทุนปานกลางและลงทุนต่ำ ซึ่งในยุคโควิด -19 ระบาดนี้ คนเรารายได้ลดลงแต่รายจ่ายเท่าเดิม จะต้องใช้เงินลงทุนสูงๆในครั้งเดียวนั้นก็มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะหากเราล้มหรือไปต่อไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราจะขายอุปกรณ์เหล่านั้นไปก็ไม่สามารถได้เงินในจำนวนเท่าเดิมได้ ดังนั้นจะเริ่มต้นขายอะไรในช่วงนี้ ควรเลือกขายอะไรที่ลงทุนต่ำ แต่ขายง่าย กำไรดี เพราะหากเราทดลองขายแล้วมันเวิร์คค่อยขยับขยายซื้ออุปกรณ์เพิ่มก็ไม่ได้เสียหายอะไร ดังนั้นใครที่อยากขายขนมหรือของว่างแบบที่ลงทุนไม่มาก เราได้รวบรวม มาไว้ให้แล้ว ซึ่งในบทความนี้จะเป็นอาชีพที่ลงทุนค่าอุปกรณ์น้อยมากๆพร้อมคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆให้ด้วย หากรู้ข้อมูลเหล่านี้คุณจะได้ตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
อ่านบทความนี้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้
ขายขนมรังผึ้ง
ขนมรังผึ้งเป็นขนมโบราณที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคยกันดี วัยรุ่นยุคใหม่มักเรียกกันว่า วาฟเฟิลสไตล์ไทยหอมนุ่มอิ่มท้อง ขนมรังผึ้งนะคะถือเป็นขนมหวานแสนอร่อยแถมทานแล้วยังอิ่มท้อง นิยมทานเล่น ทานเป้นของว่างหรือผู้ปกครองบางท่านก็มักจะซื้อให้ลูกทานก่อนไปโรงเรียนอีกด้วย ขนมรังผึ้งถือเป็นขนมที่ทำง่าย อุปกรณ์ไม่เยอะ ขายง่าย แถมกำไรดี ใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมที่ไม่ต้องลงทุนเยอะ แถมยังสามารถทำขายได้ทั้งขนมรังผึ้งและวาฟเฟิลได้ในคราวเดียวกันอีกด้วย เรียกได้ว่า มีอุปกรณ์อย่างเดียวแต่ทำขายได้หลายอย่าง คุ้มแสนคุ้ม ใครที่สนใจอยากทำอาชีพขายขนมรังผึ้ง เราไปดูข้อมูลรายละเอียด ของต้นทุนและกำไรกันค่ะ
จำนวนชั่วโมงทำงาน | 1-3 ชั่วโมง / วัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 1000-2000 บาท |
เพศที่เหมาะ | ทั้งเพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก |
ทักษะที่จำเป็น | การทำอาหาร,การทำขนม,การขาย,การบริการและการเลือกวัตถุดิบ |
ข้อดีข้อเสียของอาชีพเสริมขายขนมรังผึ้ง
ข้อดีของอาชีพเสริมขายขนมรังผึ้ง
- ลงทุนต่ำ แค่มีเครื่องทำขนมรังผึ้งก็สามารถทำขายได้เลย
- กำไรสูง เพราะวัตถุดิบราคาไม่แพง แต่ขายได้ราคาดี หากเพิ่มไส้ก็สามารถเรียกราคาที่สูงขึ้นอีกได้
- ทำง่าย ขายง่าย ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้นาน
- อร่อย เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ทำให้ขายได้ตลอดวัน และมีกลุ่มลูกค้าหลากหลาย
ข้อเสียของอาชีพเสริมขายขนมรังผึ้ง
- หนึ่งเครื่องทำได้แค่ครั้งและแผ่น ซึ่งหนึ่งแผ่นต้องใช้เวลาให้ขนมสุกอย่างน้อย 1-2 นาที (หากเป็นเครื่องทำขนมรังผึ้งที่ใช้แก็สแบบมีไฟบนล่าง) แต่หากเป็นเตาที่ปิ้งกับถ่านก็อาจจะใช้เวลาเพิ่มขึ้นอยู่กับความร้อนของไฟด้วย )หากมีเครื่องหัวเดียวจำเป็นต้องทำแล้วเก็บไว้ขายเพื่อให้ทันขาย
- ช่วงเวลาขายดี หากทำไม่ทันจะทำให้เสียรายได้ไปอย่างน่าเสียดาย
คำนวณต้นทุน+กำไร คร่าวๆ ของอาชีพเสริมขายขนมรังผึ้ง
ขนมรังผึ้งถึงแม้ว่าจะทำง่าย อร่อยและอิ่มท้อง แต่จะมีปัญหาตรงที่ทำได้แค่ครั้งละ 1 แผ่น ดังนั้นก่อนที่จะถึงช่วงเวลาขายดี คุณควรค่อยๆทำไปเรื่อยๆแล้วเก็บใส่กระติกที่ห่อผ้าขาวเอาไว้ด้วย เพื่อทำให้สามารถขายได้โดยไม่สะดุดและลูกค้าไม่ต้องรอนาน หากคุณสามารถเตรียมรับมือกับปัญหาตรงนี้ได้ และอยากขายจริงๆเรามาดูต้นทุนและกำไรของอาชีพขายขนมรังผึ้งกันดีกว่าค่ะต้นทุนในส่วนของอุปกรณ์อย่างพิมพ์ขนมรังผึ้งนั้นมีหลายราคามาก เดี๋ยวเราค่อยมาอธิบายอย่างละเอียดอีกทีในบทความถัดไปค่ะ ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นการคำนวณต้นทุนและกำไรในส่วนของขนมที่ทำขายในแต่ละครั้งกันค่ะ โดยสูตรทำขนมรังผึ้งสูตรที่เราจะคำนวณนี้สามารถทำขนมรังผึ้งขนาด 5 บาทได้ประมาณ 130 แผ่น
วัตถุดิบ | ต้นทุน | ราคาขาย | กำไร |
---|---|---|---|
แป้งสาลี 2 กิโลกรัม | 40 บาท | – | – |
กะทิ 2000 ml | 102 บาท | – | – |
น้ำตาลทราย 1500 กรัม | 37.5 บาท | – | – |
ผงฟู 30 กรัม | 3 บาท | – | – |
ไข่ไก่เบอร์ 2 ใช้ 4 ฟอง | 12 บาท | – | – |
น้ำเปล่า 2000 ml | 5 บาท | – | – |
เกลือ 1/3 ช้อนชา | 0.2 บาท | – | – |
ข้าวโพด | 10 บาท | – | – |
สีผสมอาหาร+กลิ่นวนิลา | 5 บาท | – | – |
ค่าแก็ส+ค่าถุง | 20 บาท | – | – |
รวมต้นทุนทั้งหมด | 234.7 บาท | 130 x 5 = 650 บาท | 415.3 บาท |
*** นั่นหมายความว่า หากขายขนมรังผึ้งได้ 130 แผ่น จะได้กำไรทั้งหมด 415.3 บาท เป็นต้น
ขายขนมดาว
ขนมดาวเป็นขนมหรือของกินเล่นของชาวไทยใหญ่ ที่แพร่หลายมาถึงคนไทย ขนมดาวนี้ส่วนมากจะพบในแถบภาคเหนือ นั่นหมายความว่า ภาคอื่นๆหากยังไม่มีใครขายก็ถือว่าเป็นโอกาสทองเลยล่ะค่ะ ใครที่กำลังสนใจอยากลองขายขนมดาว เรามาดูรายละเอียดต่างๆพร้อมคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆกันค่ะ
จำนวนชั่วโมงทำงาน | 1-3 ชั่วโมง / วัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 1000-2000 บาท |
เพศที่เหมาะ | ทั้งเพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะในการขาย , ทักษะการทำอาหาร , ทักษะการโน้มน้าว การเชียร์สินค้า , ทักษะการเลือกวัตถุดิบต่างๆ |
ข้อดีข้อเสียของอาชีพขายขนมดาว
ข้อดีของอาชีพขายขนมดาว
- อร่อย ขายง่าย กำไรดี หากไม่มีคนขายก็จะยิ่งเป็นที่น่าสนใจ
- ทำง่าย อุปกรณ์ไม่มาก เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่เป็นของที่เราทุกคนต่างก็มีติดบ้านไว้หมดแล้ว
- กลุ่มลูกค้าหลากหลาย สามารถขายได้ทั้งวัน
- ลงทุนใหม่วันต่อวัน มีเงินหมุนเวียนตลอด มีเงินใช้ทุกวันไม่ต้องรอสิ้นเดือน
ข้อเสียของอาชีพขายขนมดาว
- เป็นขนมของไทยใหญ่และจะมีขายแถวๆภาคเหนือ อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักสำหรับคนทั่วไป
คำนวณต้นทุน+กำไร คร่าวๆของอาชีพขายขนมดาว
ขนมดาวคนทางเหนือจะรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันก็หาทานยาก แต่เมื่อทำขายออกมาคนที่รู้จักดีอยู่แล้วก็จะต้องมาเป็นลูกค้าอย่างแน่นอน แต่สำหรับคนที่เขาไม่รู้จัก อาจจะลองทำการตลาดโดยการให้เขาลองชิมดูก่อน หรืออธิบายให้เขารู้ถึงวิธีกิน ก็จะช่วยเพิ่มลูกค้าได้ โดยหากใครที่กำลังสนใจอยากลองขายขนมดาว เรามาดูต้นทุนและกำไรคร่าวๆกันดีกว่าค่ะ โดยการคำนวณนี้จะไม่รวมค่าอุปกรณ์นะคะ
* ขนมดาวปกติจะขายกันที่ 3 ลูก 5 บาท
วัตถุดิบ | ต้นทุน | ราคาขาย | กำไร |
---|---|---|---|
ถั่วเหลือง | 22 บาท | – | – |
ข้าวจ้าว | 15 บาท | – | – |
ต้นหอมซอย | 10 บาท | – | – |
น้ำเปล่า | 1 บาท | – | – |
ค่าแก็ส+น้ำมัน | 10 บาท | – | – |
น้ำจิ้ม+ถุง | 2 บาท | – | – |
รวมต้นทุนทั้งหมด | 60 บาท | 19 x5 = 95 `บาท | 35 บาท |
*** สูตรนี้จะได้ขนมดาวประมาณ 57 ลูก ขาย 3 ลูก 5 บาทก็จะได้ทั้งหมดประมาณ 19 ชุด หากหนึ่งวันสามารถขายขนมดาวได้วันละ 190 ชุด ก็จะได้กำไรประมาณ 350 บาท เป็นต้น ซึ่งโดย ปกติแล้ว 1 คนจะซื้อประมาณ 20-30 บาทซึ่งก็คือ คนละ 4-6 ชุด ต้องการขาย 190 ชุด นั่นก็คือต้องขายให้ได้ประมาณ 31- 48 คนโดยประมาณค่ะ
ขายขนมวง
ขนมวงหรือเป็นที่รู้จักในนาม โดนัทไทยใหญ่ เป็นขนมที่ปั้นเป็นรูปวงกลมมีรูตรงกลางคล้ายโดนัท แต่แตกต่างกันตรงที่โดนัทจะราดด้วยน้ำตาลเคลือบ แต่ขนมวงจะราดด้วยน้ำตาลปี๊บหอมๆ และขนมวงมีเหนียวกว่าโดนัท ขนมวงนะคะเป็นขนมโบราณที่ตอนนี้ค่อนข้างหาทานยาก และเชื่อว่า ของที่เราเคยกินตอนเด็กๆตอนนี้ก็คงคิดถึงและอยากกินอีก และเมื่อเราเองยังคิดอย่างนี้ เชื่อว่าคนอื่นๆก็อาจจะคิดคล้ายๆกัน และหากหาที่ขายที่ไหนไม่เจอ เราก็ทำขายเองซะเลยสิ อยากรู้ไหมว่าต้องเตรียมอะไรยังไงบ้าง มีต้นทุนและกำไรเท่าไร เดี๋ยวเราจะมาลงรายละเอียดตรงนี้กันค่ะ
จำนวนชั่วโมงทำงาน | 1-3 ชั่วโมง / วัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 1000-2000 บาท |
เพศที่เหมาะ | ทั้งเพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะการขาย,การบริการ,การพูดจาโน้มน้าวใจ,การเลือกวัตถุดิบและการทำอาหาร |
ข้อดีข้อเสียของอาชีพเสริมขายขนมวง
ข้อดีของอาชีพเสริมขายขนมวง
- ขนมมีเอกลักษณ์ เป็นจุดสนใจของผู้ที่พบเห็น
- ทำง่าย ขายง่าย กำไรดี
- อุปกรณ์มีเยอะ ไม่จำเป็นต้องลงทุนด้านอุปกรณ์เพราะทุกบ้านน่าจะมีใช้กันอยู่แล้ว
- หากขายไม่หมด สามารถเก็บได้อีก 2-3 วัน ไม่บูดไม่เสีย
ข้อเสียของอาชีพเสริมขายขนมวง
- Target ชัดเจน แต่อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่ทั่วไป
- ขนมจะหวานและมีแป้งอาจจะไม่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก
คำนวณต้นทุน+กำไร คร่าวๆ ของอาชีพเสริมขายขนมวง
ขนมวงเป็นขนมโบราณที่คนรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นหรือรู้จักกันแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นขนมที่ไม่ใช่จะโบราณเกินจนไม่มีใครรู้จัก เพราะบางตลาดก็ยังมีคนขายให้เห็นกันอยู่ ขนมวงนี้มีวัตถุดิบในการทำไม่กี่อย่าง ทำให้ต้นทุนต่ำ ทำง่าย แต่กำไรดี ใครที่กำลังสนใจอยากขายขนมวง เรามาคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆเพื่อการตัดสินใจกันค่ะ โดยปกติแล้วขนมวงจะขายกันที่ชิ้นละ 2 บาท
วัตถุดิบ / 1 สูตร | ต้นทุน / 1 สูตร | ราคาขาย / 1 สูตร | กำไร / 1 สูตร |
---|---|---|---|
แป้งข้าวเหนียว | 15 บาท | – | – |
แป้งข้าวจ้าว | 2.5 บาท | – | – |
เกลือ | 0.1 บาท | – | – |
งาขาว | 1 บาท | – | – |
น้ำอ้อยเคลือบ | 25 บาท | – | – |
น้ำมัน+แก็ส | 5 บาท | – | – |
รวมต้นทุนทั้งหมด | 48.6 บาท | 60 x2 = 120 บาท | 71.4 บาท |
* สูตรนี้จะทำขนมวงขนาด 10 กรัมได้ทั้งหมด 60 ชิ้น
*** นั่นหมายความว่า หากสามารถขายขนมวงได้ 300 ชิ้น ก็จะได้กำไรทั้งหมดประมาณ 428.4 บาท เป็นต้น
ขายขนมครก
ขนมครกใครจะเชื่อว่าการขายขนมครกจะสามารถพลิกชีวิตได้จริงๆ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะมีคนทำสำเร็จมาแล้ว ขนมครกในสมัยก่อนจะเป็นแค่แป้งผสมต้นหอมกะทิและโรยด้วยน้ำตาล แต่ขนมครกในปัจจุบันมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพิ่มไส้เพิ่มรสชาติแล้วอัพราคาขาย ซึ่งคนก็นิยมกันเป็นอย่างมาก ใครที่กำลังวางแผนอยากขายขนมครกดูบ้าง เผื่อว่าจะพลิกชีวิตเหมือนคนอื่นเขา เรามาดูรายละเอียด ต้นทุนและกำไรของอาชีพนี้กันค่ะ
จำนวนชั่วโมงการทำงาน | 1-3 ชั่วโมง / วัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 1000-3000 บาท |
เพศที่เหมาะ | ทั้งเพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะด้านการทำอาหาร,การเลือกวัตถุดิบ,การขาย,การบริการ |
ข้อดีข้อเสียของอาชีพเสริมขายขนมครก
ข้อดีของอาชีพเสริมขายขนมครก
- เป็นขนมที่ทุกคนรู้จัก ทำให้ขายง่าย
- ต้นทุนต่ำ กำไรดี
- อุปกรณ์ไม่เยอะ ใช้เงินลงทุนไม่มาก สามารถเริ่มได้แม้มีเงินไม่ถึงพัน
- สามารถเพิ่มไส้ หรือดัดแปรงไส้ได้หลากหลาย
ข้อเสียของอาชีพเสริมขายขนมครก
- คู่แข่งเยอะ
- ขนมครกเป็นขนมที่มีแคลอรี่สูง จึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก
คำนวณต้นทุน+กำไร คร่าวๆ ของอาชีพเสริมขายขนมครก
ขนมครกเป็นอาชีพที่ขายกันมานานหลายชั่วอายุคน แต่ก็ยังคงเป็นอาชีพที่ทำกำไรได้อย่างดีเยี่ยม ใครกำลังมองหาอาชีพที่ขายได้ตลอดกาล..ขายได้ทุกเพศทุกกวัย..ยอดขายกำไรเริ่มต้นอย่างน้อยวันละ 300 บาท ไม่ว่าจะเป็นขนมครกแบบธรรมดาสูตรดั้งเดิมหรือจะเป็นขนมครกเครื่องแน่น เรามาลองคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆของอาชีพขายขนมครกกันค่ะ
วัตถุดิบ | ต้นทุน | ราคาขาย | กำไร |
---|---|---|---|
แป้งสาลีเอนกประสงค์ตราฟ้าดาว | 25 บาท | – | – |
แป้งข้าวจ้าวตราช้างสามเศียร | 32 บาท | – | – |
น้ำตาลปี๊บ | 13 บาท | – | – |
กะทิ | 150 บาท | – | – |
ค่าทอปปิ้งต่างๆ(ข้าวโพด+ฝอยทอง+มันม่วง+ฟักทอง+มะพร้าวอ่อน) | 60 บาท | แป้งสูตรนี้จะได้ขนมครกทั้งหมด 336 คู่ ขาย 6 คู่ 20 บาทจะได้ทั้งหมด 56 กล่อง | – |
ค่าแก็ส+ถุง+กล่อง | 20 บาท | – | – |
รวมต้นทุนทั้งหมด | 300 บาท | 56 x20 =1120 บาท | 820 บาท |
** นั่นหมายความว่า ในหนึ่งวันหากขายขนมครกได้ 56 กล่องก็จะมีกำไรที่ 820 บาท เป็นต้น
ขายขนมถ้วย
ขนมถ้วยเป็นขนมไทยโบราณที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าไรก็ยังคงฮิตติดลมบนไม่เลิก ด้วยรสชาติหอมหวานมันเค็มกินทีไรต้องลืมอ้วนไปได้ทุกที ใครที่อยากขายขนมถ้วยแต่ยังลังเลไม่กล้าตัดสินใจ เราได้รวบรวมรายละเอียด พร้อมคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆเพื่อช่วยในการตัดสินใจมาฝาก
จำนวนชั่วโมงการทำงาน | 2-3 ชั่วโมง / วัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 1000-2000 บาท |
เพศที่เหมาะ | ทั้งเพศชายเพศหญิงและเพศทางเลือก |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะด้านการทำขนม,การเลือกวัตถุดิบ,การขาย,การเก็บรักษาขนมและวัตถุดิบต่างๆ |
ข้อดีข้อเสียของอาชีพขายขนมถ้วย
ข้อดีของอาชีพขายขนมถ้วย
- ขนมอร่อย มีลูกค้ารอซื้อเยอะ
- ขายง่าย กำไรดี
- อุปกรณ์ไม่เยอะ ใช้เวลาเตรียมไม่นาน
- มีเงินน้อยก็ลงทุนได้
ข้อเสียของอาชีพขายขนมถ้วย
- เป็นขนมที่มีทั้งรสหวาน มัน เค็ม ทำให้แคลอรี่สูง อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหาร
คำนวณต้นทุน+กำไร คร่าวๆ ของ อาชีพขายขนมถ้วย
ขนมถ้วยเป็นขนมขวัญใจของคนทุกยุคทุกสมัย ทุกเพศทุกวัย ทำให้ขนมชนิดนี้ขายดีและกำไรดี หากคุณกำลังสนใจอยากขายขนมถ้วยแต่ยังไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม ต้องลงทุนเท่าไร ต้นทุนแพงหรือไม่พร้อมกำไรในแต่ละครั้งจะคุ้มกับค่าเหนื่อยหรือเปล่า เรามาลองคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆกันค่ะ
การคำนวณต้นทุนนี้เป็นต้นทุนที่สามารถทำขนมถ้วยได้ประมาณ 61 ชิ้น ราคาขายชิ้นละ 5 บาทค่ะ โดยเราจะทำขายแบ่งใส่กล่องๆละ 30 บาท ได้ทั้งหมด 10 กล่อง เหลืออีก 1 ชิ้น ซึ่งเราขอนับที่ 10 กล่องถ้วนนะคะ
วัตถุดิบ | ต้นทุน | ราคาขาย | กำไร |
---|---|---|---|
แป้งข้าวจ้าว | 3.5 บาท | – | – |
น้ำตาลทราย | 1 บาท | – | – |
กะทิ | 67 บาท | – | – |
เกลือป่น | 0.01 บาท | – | – |
น้ำตาลปี๊บ | 10.5 บาท | – | – |
แป้งท้าวยายม่อม | 0.48 บาท | – | – |
แป้งมันสำปะหลัง | 0.72 บาท | – | – |
น้ำใบเตย | 5 บาท | – | – |
กล่อง+ถุง+ส้อมพลาสติก | 1 บาท | – | – |
ค่าแก็ส+ค่าน้ำที่ใช้นึ่ง | 10 บาท | – | – |
รวมต้นทุนทั้งหมด | 99.21 บาท | 10กล่อง x 30 บาท= 300 บาท | 200.79 บาท |
*** นั่นหมายความว่า หากวันหนึ่งสามารถขายขนมถ้วยได้ทั้งหมด 30 กล่อง ก็จะได้กำไรประมาณ 602.37 บาท เป็นต้น
อยากมีอาชีพเสริมสร้างรายได้ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง
อาชีพหลายอาชีพที่ลงทุนต่ำและกำไรดีก็มีเยอะ การจะทำอาชีพอะไรก็ตาม หากเราตั้งใจไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร เชื่อว่าเราจะสามารถเอาชนะและก้าวผ่านไปอย่างภาคภูมิอย่างแน่นอน แถมยุคนี้การเงินฝืดเคือง ออกหากินก็ลำบาก จะลงทุนเยอะๆเพื่อหวังจะให้มีร้านที่ดีที่สวยงาม อาจจะไม่ตอบโจทย์เสมอไป เพราะเมื่อเรายังไม่ได้ลงมือทำจริงจัง เราจะไม่มีทางรู้เลยว่า เราจะทำแล้วไปรอดไหม หากลงทุนเยอะๆแต่ไม่รอดคงจะเสียดายเงินไม่ใช่น้อย ดังนั้นค่อยๆลองดีกว่าค่ะ หากทำแล้วรุ่งค่อยปรับปรุงทีหลังก็ยังไม่สาย