Site icon irecognize

5 วิธีสร้างรายได้ จาก อาชีพเสริม สำหรับขายหน้าโรงเรียน

5 วิธีสร้างรายได้ จาก อาชีพเสริม สำหรับขายหน้าโรงเรียน

เชื่อไหมคะว่า การขายของหน้าโรงเรียนให้เด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองที่เข้ามาส่งลูกหลาน ถือเป็นอาชีพที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ ยิ่งโรงเรียนที่มีนักเรียนเยอะๆ ยอดขายของเราก็จะเยอะไปด้วย ใครจะเชื่อคะว่า การขายของ 5 บาท สิบบาทให้เด็กๆก็สามารถทำเงินเป็นกอบเป็นกำได้เหมือนกัน ใครที่บ้านใกล้โรงเรียนหรืออยากขายของหน้าโรงเรียน แต่ยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี ที่เหมาะกับเด็กๆและต้นทุนไม่สูงมากแถมยังขายง่าย กำไรดี ทาง iirecognize ของเราจึงได้รวบรวม 5 อาชีพเสริมทำเงิน เหมาะสำหรับขายหน้าโรงเรียนมาฝากกันค่ะ

อ่านบทความนี้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้

แพนเค้กการ์ตูน


สนใจรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ


ขนมแพนเค้ก เป็นของสุดโปรดของเด็กๆ แค่แพนเค้กแผ่นกลมๆที่ทั้งนุ่มทั้งหอมก็ถือว่าเด็กๆชอบกันมากอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นแพนเค้กที่มีรูปการ์ตูนโปรดของเหล่าตัวน้อยเข้าไปด้วยแล้ว เชื่อเลยค่ะ ว่าเด็กๆต้องมาต่อคิวเข้าแถวรอซื้ออย่างแน่นอน แถมนอกจากเด็กๆแล้ว ผู้ปกครองหรือเด็กโตก็จะมาเป็นลูกค้าของคุณด้วย และยิ่งถ้าคุณมีฝีมือในการวาดรูปอยู่ด้วยแล้ว ยิ่งปังปุริเย่แบบฉุดไม่อยู่เลยล่ะค่ะ เกริ่นมาถึงตรงนี้แล้วคงจะมีคนสนใจอยากขายแพนเค้กการ์ตูนแล้ว เราไปดูรายละเอียดคร่าวๆของอาชีพขายแพนเค้กการ์ตูน กันดีกว่าค่ะ

จำนวนชั่วโมงทำงาน 1-2 ชั่วโมง / วัน
เงินลงทุนเริ่มต้น 2000-3000 บาท
เพศที่เหมาะ ทั้งเพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะในการวาดรูป , ทักษะการขาย , ความใจเย็น , พูดคุยหยอกล้อและให้ความเป็นกันเอง

ข้อดีข้อเสียของข้อมูลอาชีพเสริม : ขายแพนเค้กการ์ตูน

ข้อดีของอาชีพขายแพนเค้กการ์ตูน

  1. ขายง่าย รายได้ดี ยิ่งมีรูปภาพหรือลวดลายให้เลือกเยอะก็จะยิ่งเป็นจุดสนใจ
  2. ตัวขนมอร่อย อิ่มท้อง เวลาซื้อแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
  3. ลงทุนไม่เยอะมาก คู่แข่งยังน้อย ยิ่งมีรถพ่วงขายของก็จะสามารถไปขายในที่ต่างๆได้หลากหลายขึ้น
  4. การเตรียมของใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องมีอุปกรณ์หรือขั้นตอนเยอะ ช่วยประหยัดเวลาในการเตรียม

ข้อเสียของอาชีพขายแพนเค้กการ์ตูน

  1. กว่าแพนเค้กจะสุกก็ใช้เวลาระยะหนึ่ง หากขายดีมากๆอาจจะเป็นกังวลเรื่องการจัดลำดับคิว
  2. การทำขายควรหลีกเลี่ยงการวาดลายลิขสิทธิ์ เพราะไม่งั้นอาจโดนจับเสียเงินได้

คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายแพนเค้กการ์ตูน

เชื่อว่าแพนเค้กการ์ตูนคงจะเป็นอาชีพที่ใครๆก็สนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ แต่การจะเริ่มต้นนั้นอาจลำบากพอสมควรเพราะจะไปถามใครเขาก็คงจะไม่ค่อยรู้หรือถ้ารู้ก็อาจจะบอกไม่หมด เพราะเขาคงไม่อยากให้มีใครมาขายเป็นคู่แข่ง หรือบางทีถ้าไม่กล้าไปถามคนอื่นจะลงเรียนก็ราคาค่อนข้างแพง หากมีเงินทุนน้อย ต้องเสียไปทั้งค่าอุปกรณ์ ค่าต้นทุนและค่าเรียนอีก ในยุคนี้อาจจะถือว่าลำบากน่าดู ไม่เป็นไรค่ะ ทีมงาน iirecognize จะช่วยคุณเอง

ปกติแพนเค้กการ์ตูนหากขายตามตลาดนัดจะขายกันที่ 15-20 บาท แต่การขายให้เด็กนักเรียนอาจจะแพงไป โดยการขายให้เด็กๆที่โรงเรียนแนะนำ 5 บาท ต่อ 1 ชิ้นน่าจะเหมาะที่สุดค่ะ โดยต้นทุนการขายแพนเค้กการ์ตูน หากไม่รวมค่าเตา ค่าแก็สและรถเข็ญขายของแล้ว จะเป็นส่วนของค่าวัตถุดิบในการทำแพนเค้ก ได้แก่

วัตถุดิบ แพนเค้ก 1 สูตร
(ทำได้ประมาณ 13 ชิ้น)
ต้นทุน ราคาขาย กำไร
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 6.25 บาท
ไข่ไก่เบอร์ 2 (2ฟอง) 7 บาท
น้ำตาลทราย 3 บาท
นมสด 12 บาท
ผงฟู 0.5 บาท
เกลือ 0.2 บาท
น้ำมันพืช 0.2 บาท
โกโก้ +
สีผสมอาหาร
1 บาท
ค่าแก็ส+ค่ากระดาษ+ค่าถุง
+ค่าไม่เสียบลูกชิ้น
5 บาท
รวมต้นทุนแพนเค้ก 1 สูตร
(ทำได้ประมาณ 13 ชิ้น)
35.15 บาท 13 x5 = 65 บาท 29.5 บาท

** ราคาต้นทุนยังไม่รวมค่าที่,ค่าแรง
*** หากในหนึ่งวันขายแพนเค้กการ์ตูนได้ 104 ชิ้น ก็จะได้กำไรทั้งหมด 236 บาท เป็นต้น (วัตถุดิบบางอย่างอาจลดต้นทุนลงได้หากซื้อในราคาส่งหรือซื้อทีละเยอะๆ ส่วนนมหากลูกได้นมโรงเรียนแล้วไม่ทานสามารถนำมาใช้ได้แถมลดต้นทุนไปด้วย)

ข้าวโพดคลุกเนย

ข้าวโพดคลุกเนยเหมาะมากสำหรับขายช่วงหน้าหนาว เพราะกลิ่นหอมๆและรสชาติหวานๆของข้าวโพดจะช่วยให้อบอุ่นและมีความสุข จริงๆแล้ว ข้าวโพดคลุกเนยสามารถขายได้ทั่วไป ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การเดินเที่ยวเล่นดูของกลางสายลมหนาวแล้วทานข้าวโพดคลุกเนยไปด้วย นี่ฟินอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะค่ะ และถ้าใครที่กำลังอยากขายข้าวโพดคลุกเนยหน้าโรงเรียนให้เด็กๆ เรามาดูรายละเอียดคร่าวๆกันดีกว่า

จำนวนชั่วโมงการทำงาน 1-2 ชั่วโมง / วัน
เงินลงทุนเริ่มต้น 1,000-2,000 บาท
เพศที่เหมาะ ทั้งเพศชาย เพศหญิง และเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะด้านการขาย
ทักษะด้านการบริการ การโน้มน้าว , ทักษะด้านการปรุงอาหาร

ข้อดีข้อเสียของการขายข้าวโพดคลุกเนย

ข้อดีของการขายข้าวโพดคลุกเนย

  1. ขายง่าย กำไรดี
  2. มีกลิ่นหอมโชยไปไกล สามารถเรียกลูกค้าจากกลิ่นได้
  3. ต้นทุนต่ำ อุปกรณ์ไม่เยอะ
  4. ไมเสียเวลาเตรียมนาน ทำให้ประหยัดเวลา

ข้อเสียของการขายข้าวโพดคลุกเนย

  1. ขายได้บางโอกาส บางเทศกาล เพราะข้าวโพดจะออกแค่บางช่วงเท่านั้น
  2. ไม่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ทำให้ขาดรายได้ตรงส่วนนี้ไป

คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายข้าวโพดคลุกเนย

ข้าวโพดคลุกเนย ดูเผินๆแล้วจะมีอุปกรณ์และวัตถุดิบแค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งจริงๆแล้วก็จะมีเท่าที่เห็นนั่นแหละค่ะ ที่เหลือจะเป็นกลวิธีในการทำมากกว่า ซึ่งการเตรียมข้าวโพดไว้คลุกเนยขายนั้นก็ทำได้ง่ายและรวดเร็วมากๆ เพราะทำแค่ไม่กี่อย่างก็เสร็จแล้ว ถือเป็นอาชีพที่ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องยุ่งยากเลยล่ะค่ะ และการที่เราเห็นว่ามีอุปกรณ์และวัตถุดิบน้อยขนาดนี้ เราไปคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆกันดูดีกว่า ว่าการขายข้าวโพดคลุกเนยนั้นมีต้นทุนและกำไรเท่าไรกันแน่ค่ะ
โดยปกติแล้ว ข้าวโพดคลุกเนย 1 ถ้วย(พลาสติกใสขนาด 6 ออนซ์)จะขายที่ราคาถ้วยละ 15 บาท

วัตถุดิบ ต้นทุน / 1 ถ้วย ราคาขาย / 1ถ้วย กำไร / 1 ถ้วย
ข้าวโพดดิบ 2.50 บาท
เนยจืด 0.85 บาท
นมสด 0.50 บาท
น้ำตาลทราย 0.25 บาท
มะพร้าวอ่อนขูดฝอย 3.50 บาท
แก็ส 0.25 บาท
ถ้วยพลาสติกใส 6 ออนซ์ 0.25 บาท
ช้อนพลาสติก 0.25 บาท
รวมต้นทุนข้าวโพดคลุกเนย 1 ถ้วย 8.35 บาท 15 บาท 6.65 บาท

**ราคาต้นทุนยังไม่รวมค่าที่,ค่าแรง
*** หากในหนึ่งวันสามารถขายข้าวโพดคลุกเนยได้ 100 ถ้วย ก็จะมีกำไรทั้งหมด 665 บาทเลยทีเดียว (ข้าวโพดตามตลาดสดหากออกใหม่ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาทเมื่อเลาะเมล็ดออกมาแล้วจะเหลือประมาณ 7 ชีด ปกติ ข้าวโพดคลุกเนย 1 ถ้วย(15 บาท )จะใส่ข้าวโพดนึ่งประมาณ 150 กรัม จะได้ 4 ถ้วยกว่าๆ)


สนใจรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

ลูกชิ้นทอดรวม

มีใครยังจำตอนสมัยเป็นเด็กกันได้ไหมคะ เวลาไปโรงเรียนก็จะมีลูกชิ้นทอดรวม ราดน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานเผ็ดนิดๆด้วย โดยลูกชิ้นทอดรวมเหล่านี้ก็จะมีขายตั้งแต่ 5 บาท เป็นต้นไป และวันนี้หากเราอยากจะเป็นแม่ค้าขายเอง เราต้องลงทุนอะไรบ้าง ต้นทุนแพงไหม ได้กำไรเท่าไร เดี๋ยวเราจะมาลองคำนวณต้นทุนทั้งหมดให้ได้รู้กันค่ะ

จำนวนชั่วโมงการทำงาน 1 -2 ชั่วโมง / วัน
เงินลงทุนเริ่มต้น 1,500-2,000 บาท
เพศที่เหมาะ เพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะการขาย
ทักษะการโน้มน้าวใจ ทักษะการทำอาหาร

ข้อดีข้อเสียของการขายลูกขิ้นทอดรวม

ลูกชิ้นทอดรวม ทำง่าย ขายง่าย เป็นขวัญใจเด็กๆและยังเป็นอาหารสุดอร่อยของทุกเพศทุกวัย การจะทำอาชีพนี้ก็ไม่ยาก วัตถุดิบก็หาซื้อง่าย แต่หากอยากลองขายจริงๆ เราต้องมาดูกันค่ะ ว่าอาชีพการขายลูกชิ้นทอดรวมมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง

ข้อดีของการขายลูกขิ้นทอดรวม

  1. ขายง่าย กำไรดี ใช้เวลาเตรียมไม่นาน
  2. มีอุปกรณ์ไม่มาก ไม่เกะกะ อุปกรณ์บางอย่างไม่จำเป็นต้นซื้อใหม่แค่เอาของที่บ้านมาปรับใช้ได้
  3. ถูกใจทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาโปรโมทให้เหนื่อย
  4. อร่อย ขายได้ทุกฤดู ทุกเทศกาล

ข้อเสียของการขายลูกขิ้นทอดรวม

  1. หากไม่มีรถพ่วงก็อาจจะลำบากเวลาฝนตกหรือลำบากเวลาเคลื่อนย้ายเพื่อไปขายยังสถานที่ต่างๆ
  2. น้ำมันต้องสะอาด หากไม่ใส่ใจลูกค้าอาจจะหนีได้

คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายลูกชิ้นทอดรวม

ลูกชิ้นทอดรวมสำหรับคนที่อยากทดลองขายหรือกำลังอยากเริ่มต้นในกรณีที่ค่อยๆทำอุปกรณ์ที่จำเป็นก็ได้แก่ แก็ส,หม้อทอด,น้ำมัน แต่หากอยากทำแบบรถพ่วงที่ไว้ขายตามงานต่างๆก็จำเป็นที่จะต้องทำล้อด้วย โดยหากต้องทำล้อใหม่อาจเสียเงินลงทุนประมาณ 5000-6000 บาท แต่หากอยากทดลองขาย แนะนำแค่เอาแก็สตั้งตั้งกับโต๊ะ 1 ตัวและหม้อทอดอีก 1 ใบก็พอแล้วค่ะ

โดยต้นทุนในส่วนของการขายลูกชิ้นทอดรวม ได้แก่

ลูกชิ้นหมูหรือไก่ 1 กิโลกรัม ราคาประมาณ 60 บาท (ประมาณ 150 ลูก)

ไส้กรอกแดง 1 กิโลกรม ราคาประมาณ 65 บาท (ประมาณ 40 ชิ้น 1 ชิ้นหั่นได้ 3 ท่อน)

ปลาเส้นทอด 1 เส้น ราคาเส้นละ 12 บาท 1 แท่ง ตัดครึ่งได้ 7 แท่งเล็ก และ 1 แท่งเล็กตัดครึ่งได้อีก 2 แท่งเล็กๆ = ปลาเส้น 1 แท่ง จะได้ทั้งหมด 14 ชิ้น (บางคนตัดชิ้นเล็กลงก็จะได้เยอะกว่านี้)

โดยทั่วไปแล้ว ลูกชิ้นทอดรวมเหล่านี้จะขายคละกันซึ่งจะขายกันที่ 4 ชิ้น 5 บาท

วัตถุดิบ ต้นทุน ราคาขาย กำไร
ลูกชิ้นหมูหรือไก่ 1 กิโลกรัม 60 บาท (150 ลูก) 185 บาท (เหลือ 2 ลูก) 125 บาท
ไส้กรอกแดง 1 กิโลกรัม 65 บาท (40 ชิ้น) 150 บาท 55 บาท
ปลาเส้นทอด 1 กิโล(6 เส้น) 72 บาท (84 ชิ้น) 105 บาท 33 บาท
น้ำจิ้ม+น้ำมันพืช+แก็ส+ถุงหิ้ว+ไม้จิ้ม 10 บาท
รวมต้นทุนทั้งหมด 207 บาท 440 บาท 233 บาท

** ราคาต้นทุนยังไม่รวมค่าที่,ค่าแรง
*** หากวันหนึ่งขายลูกชิ้นทอดรวมได้ทั้งหมด 9 กิโล ก็จะมีกำไร 699 บาท เป็นต้น

ขนมโตเกียว

เชื่อว่าไม่มีเด็กคนไหนไม่ชอบกินขนมโตเกียว จำได้ว่าผู้เขียนตอนได้กินขนมโตเกียวครั้งแรกนี่แบบโห..อร่อยมาก จากนั้นก็โหยหามากอยากกินมากๆ ขนมโตเกียวในท้องตลาดส่วนใหญ่เราจะเห็น 2 ไส้ คือไส้หวานกับไส้เค็ม และขนมโตเกียวเองก็เป็นขนมหนึ่งอย่างที่ได้รับความนิยมและขายดีมากๆโดยเฉพาะขายหน้าโรงเรียนหรือตามงานเทศกาลต่างๆ ส่วนใครที่อยากขายขนมโตเกียว เรามาดูรายละเอียด อุปกรณ์ ต้นทุนและกำไรคร่าวๆกันค่ะ

จำนวนชั่วโมงการทำงาน 1-2 ชั่วโมง / วัน
เงินลงทุนเริ่มต้น 2,500 – 3,000 บาท (ไม่รวมรถเข็น)
เพศที่เหมาะ เพศชาย เพศหญิง และเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะการขาย
ทักษะการเลือกวัตถุดิบ ทักษะการทำอาหาร

ข้อดีข้อเสียของการขายขนมโตเกียว

ข้อดีของการขายขนมโตเกียว

  1. ขายง่าย กำไรดี ใครๆก็รู้จัก
  2. ใช้เวลาในการเตรียมวัตถุดิบไม่นาน
  3. ใช้เงินลงทุนไม่เยอะ สามารถปรับขายร่วมกับขนมอื่นๆได้ เช่นโตเกียวกรอบ ,เครป,แพนเค้ก เพราะใช้เตาเดียวกันได้
  4. มีลูกค้าหลากหลาย ทุกเพศทุกวัย ใครๆก็ชอบ

ข้อเสียของการขายขนมโตเกียว

  1. การเก็บแป้งสำคัญมาก บางครั้งอากาศที่ร้อนเกินไปอาจจะทำให้แป้งไม่เป็นแผ่น

คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายขายขนมโตเกียว

ขนมโตเกียว เป็นขนมยอดฮิตของทุกเพศทุกวัย เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี ขนมโตเกียวสมัยนี้บางพื้นที่อาจจะหาซื้อง่าย แต่บางพื้นที่ก็หากินยาก หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังอยากลงทุนขายขนมโตเกียว แต่ทุนน้อยแถมยังไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมอะไรยังไง มีต้นทุนค่าวัตถุดิบเท่าไร และขายแล้วจะได้กำไรเท่าไร เรามาลองดูการคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆกันค่ะ

**โดยทั่วไปแล้วขนมโตเกียว 1 ชิ้นจะขายที่ 10 บาท ทั้งไส้เค็มและไส้หวาน (ไส้หวานจะได้กำไรเยอะกว่า แต่ไส้เค็มจะขายดีกว่า)

วัตถุดิบ ต้นทุน / ชิ้น ราคาขาย / ชิ้น กำไร / ชิ้น
แป้งขนมโตเกียว 0.39 บาท
ไส้เค็ม(ไส้กรอก+เนื้อหมู+ไข่+ผัก+ซอส+พริกไทย) 4 บาท
ไส้หวาน (ไส้ครีมคัสตาร์ด) 0.5 บาท
ค่าแก็ส+ถุง 1 บาท
ต้นทุนโตเกียวไส้หวาน 1 ชิ้น 1.89 บาท 10 บาท 8.11 บาท
ต้นทุนโตเกียวไส้เค็ม 1 ชิ้น 5.39 บาท 10 บาท 4.61 บาท

** ราคาต้นทุนยังไม่รวมค่าที่,ค่าแรง
*** ถ้าในหนึ่งวันขายขนมโตเกียวไส้เค็มได้ 100 ชิ้นจะได้กำไรทั้งหมด 461 บาท ,ขายขนมโตเกียวไส้หวานได้ 50 ชิ้นจะได้กำไร 405.5 บาท นั่นหมายความว่าวันนั้นทั้งวันจะมีกำไรจากขนมโตเกียว 866.5 บาท เป็นต้น (ราคาของอาจจะผันผวนตามราคาตลาด และการซื้อวัตถุดิบจำนวนมากจะช่วยลดต้นทุนลงได้)

เครปญี่ปุ่น

เครปญี่ปุ่นเป็นขนมอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยความที่แป้งบางกรอบและมีไส้ให้เลือกหลากหลาย ทำให้เครปญี่ปุ่นเองเป็นขนมที่ขายง่าย กำไรดี ที่สำคัญต้นทุนไม่สูง เวลาหรือขั้นตอนในการทำก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจอยากขายเครปญี่ปุ่น เรามีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับอาชีพขายเครปญี่ปุ่นมาฝากค่ะ

จำนวนชั่วโมงการทำงาน 1-3 ชั่วโมง / วัน
เงินลงทุนเริ่มต้น 2,500-3,000 บาท (ไม่รวมรถเข็น)
เพศที่เหมาะ ทั้งเพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะการขาย
ทักษะการบริการ ทักษะการทำอาหารและเลือกวัตถุดิบ

ข้อดีข้อเสียของการขายเครปญี่ปุ่น

ข้อดีของการขายเครปญี่ปุ่น

  1. ทำง่าย ขายง่าย กำไรดี
  2. ลุงทุนขั้นต้นไม่เยอะมาก อุปกรณ์บางอย่างที่มีอยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่
  3. อร่อย มีลูกค้าทุกเพศทุวัย ไม่ต้องโปรดมทมากก็มีคนรู้จัก แต่เห็นก็รู้ว่าขายอะไร

ข้อเสียของการขายเครปญี่ปุ่น

  1. เครื่องปรุง วัตถุดิบหยิบย่อยมีเยอะมาก หากเราหลายไส้ การเตรียมอาจจะยุ่งยากนิดหน่อย

คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายเครปญี่ปุ่น

เครปญี่ปุ่นบูมมากในประเทศไทยเราในช่วง 20 กว่าปีก่อน ซึ่งคนที่เริ่มขายในตอนนั้นก็รวยกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าถามว่า จะลงทุนขายในตอนนี้ยังได้อยู่ไหม คำตอบคือ ได้แน่นอนค่ะ เพราะถึงแม้ว่าจะผ่านมานานแล้ว แต่ความนิยมรับประทานเครปญี่ปุ่นยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ใครอยากลองขายในตอนนี้หากมีสถานที่จะขายอยู่แล้วโดยเฉพาะหน้าโรงเรียนหรือหน้าโรงงานต่างๆต้องรีบแล้วล่ะ เดี๋ยวใครจะมาแย่งไปซะก่อน และหากคุณกำลังลังเลหรือกำลังอยู่ในช่วงของการตัดสินใจ เราลองมาคำนวนต้นทุนและกำไรที่จะได้จากการขายเครป 1 ชิ้นกันดีกว่า

** โดยทั่วไปแล้วตามหน้าโรงเรียนต่างๆเครป 1-2 ไส้จะขายกันที่แผ่นละ 10 บาท แต่ 3 ไส้ขึ้นไปราคาก็จะเพิ่มขึ้น เช่น 15-20 บาท เป็นต้น แต่สำหรับการคำนวณครั้งนี้เราขอยึดที่ราคาขาย 10 บาท เป็นหลักนะคะ

วัตถุดิบ ต้นทุน/ 1 แผ่น ราคาขาย/ 1 แผ่น กำไร / 1 แผ่น
แป้งเครป 1 บาท
ไส้ๆต่างๆ 4 บาท
ซองใส่เครปญี่ปุ่น 0.80 บาท
ค่าแก็ส 0.5 บาท
รวมต้นทุนเครป 1 ชิ้น 6.3 บาท 10 บาท 3.7 บาท

** ราคาต้นทุนยังไม่รวมค่าที่,ค่าแรง
*** หากในหนึ่งวันขายเครปญี่ปุ่นได้ 100 ชิ้น ก็จะได้กำไรทั้งหมด 370 บาท (กำไรอาจจะมากหรือน้อยลงตามไส้ที่ขายได้ เพราะบางไส้ต้นทุนต่ำ แต่บางไส้ก็ต้นทุนสูงกว่า)

อาชีพเสริมขายของหน้าโรงเรียนยังเป็นทางเลือกการสร้างรายได้ที่ยอดเยี่ยมตลอดกาล

ถึงแม้ว่าการขายของให้เด็กๆอาจจะได้ขายในราคาที่ถูกลงกว่าท้องตลาด แต่หากเราทำอร่อยและมีคุณภาพดี รวมไปถึง การบริการหรือการพูดจาที่อบอุ่นเป็นกันเอง ลูกค้าตัวน้อยๆทั้งหลายก็พร้อมที่จะเป็นลูกค้าขาประจำตลอดไป ซึ่งบางครั้งนอกจากจะได้ขายให้กับเด็กนักเรียนแล้ว ยังมีโอกาสที่จะขายให้กับผู้ปกครองอีกด้วย ที่สำคัญหากในตอนเริ่มต้นการขายของหน้าโรงเรียน ยังไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์แบบอลังการหรือจัดเต็มเลย หากทำอร่อยแค่วางบนโต๊ะสะอาดๆสักตัว ลุกค้าตัวน้อยๆก็พร้อมจะอุดหนุนอย่างเต็มที่แล้วล่ะค่ะ