Site icon irecognize

5 วิธีสร้างรายได้ จาก อาชีพเสริม ที่เหมาะสำหรับ คนอยากขายอาหาร ฉบับที่ 2

5 วิธีสร้างรายได้ จาก อาชีพเสริม ที่เหมาะสำหรับ คนอยากขายอาหาร ลงทุนน้อยกำไรดี

ขายอาหารเป็นอาชีพหนึ่งที่ไม่เคยตกยุคไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน เพราะยังไงๆ คนเราก็ต้องการอาหาร ยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนการทำอาหารเองอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไร จึงทำให้คนส่วนใหญ่ฝากท้องไว้กับร้านขายอาหารต่างๆ และหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังวางแผนหรือกำลังมองหาช่องทางในการเพิ่มรายได้และอยากขายอาหาร เราได้รวบรวม 5 อาชีพสำหรับคนอยากขายอาหาร ที่ลงทุนน้อย แต่ขายง่ายและกำไรดีมาฝาก



อ่านบทความนี้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้

ขายไก่ย่างไม้ละ 5 บาท

ไก่ย่างเป็นเมนูแสนอร่อยที่ถูกลิ้นคนส่วนใหญ่มานาน สามารถกินเป็นกับข้าว กับแกล้มหรือกินเป็นของเล่นก็ยังได้ หากคุณกำลังอยากลองขายไก่ย่างไม้ละ 5 บาท ลองมาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าต้นทุนและกำไร รวมถึงรายละเอียดต่างๆที่ควรรู้เกี่ยวกับการขายไก่ย่างไม้ละ 5 บาทมีอะไรบ้าง

จำนวนชั่วโมงทำงาน 2-3 ชั่วโมง
เงินลงทุนเริ่มต้น 1,000 -2,000 บาท
เพศที่เหมาะ เพศชาย เพศหญิง และเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะการขาย , ทักษะการทำอาหาร

ข้อดีข้อเสียของการขายไก่ปิ้งไม้ละ 5 บาท

ข้อดีของอาชีพขายไก่ปิ้งไม้ละ 5 บาท

  1. ขายง่าย กำไรดี
  2. ต้นทุนไม่แพง อุปกรณ์ไม่เยอะ
  3. สามารถขายร่วมกับส้มตำหรืออื่นๆได้ เช่น ตีนไก่,ตับไก่ ,หมูปิ้งฯลฯ
  4. ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่าย เพราะทานง่าย ราคาถูก

ข้อเสียของอาชีพขายไก่ปิ้งไม้ละ 5 บาท

  1. หากขายไม่หมดเก็บต่อยาก เพราะอาจมีกลิ่นเหม็นหืนได้
  2. คู่แข่งเยอะ

คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพขายไก่ปิ้งไม้ละ 5 บาท

ไก่ย่างไม้ละ 5 บาท เวลาเดินไปทางไหนก็มีขาย แต่บางพื้นที่ก็ไม่มีใครขายเหมาะอย่างมากที่เราจะไปทำการตลาด แต่ถึงจะมีคนขายเยอะ แต่คนซื้อก็เยอะเช่นเดียวกัน หากเราสามารถทำไก่ปิ้งของเราให้อร่อย สะอาด รสชาติเฉพาะตัว ลูกค้าก็จะเยอะขึ้นตามไปด้วย โดยหากคุณกำลังสนใจอยากลองขายไก่ปิ้งไม้ละ 5 บาท ลองมาดูต้นทุนและกำไรกันค่ะ

วัตถุดิบ ต้นทุน/ ไม้ ราคาขาย / ไม้ กำไร / ต่อไม้
เนื้อสะโพกไก่ 0.06 บาท
ไม้เสียบไก่ ยาว 8 นิ้ว 0.16 บาท
เครื่องปรุง+ถุง+ถ่าน 2.76 บาท
รวมต้นทุนไก่ปิ้ง 1 ไม้ 2.98 บาท 5 บาท 2.02 บาท

*** ดังนั้นหากหนึ่งวันขายไก่ปิ้งไม้ละ 5 บาทได้ 300 ไม้ ก็จะได้กำไรที่ 606 บาท เป็นต้น

ขายซาลาเปา

ซาลาเปาเป็นอาหารเช้าแสนง่าย อร่อย อิ่มท้อง ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หากอยากขายซาลาเปามีให้เลือก 2 ทางคือรับของคนอื่นเขามาขายและทำเองขายเอง การรับคนอื่นมาขายอาจต้องติดต่อกับคนขายว่าเขาขายส่งให้เราลูกละเท่าไรแล้วเราเอาไปนึ่งขายเองจะได้กำไรเท่าไร การรับมาขายจะช่วยประหยัดเวลาในการทำเรามีหน้าที่แค่นึ่งขายเท่านั้นแต่กำไรอาจจะน้อยกว่าการที่เราทำเอง ส่วนการทำเองจะใช้เวลาเยอะกว่าแต่ก็ได้กำไรเยอะกว่าค่ะ โดยหากสนใจอยากขายซาลาเปาแบบทำเอง เดี่ยวเรามาดูรายละเอียดของต้นทุนและกำไรกันค่ะ

จำนวนชั่วโมงทำงาน 3-4 ชั่วโมง / วัน(รวมตอนทำและขาย)
เงินลงทุนเริ่มต้น 1000-1500 บาท
เพศที่เหมาะ ทั้งชายหญิงและเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะการขาย , ทักษะการทำอาหาร

ข้อดีข้อเสียของอาชีพเสริม ขายซาลาเปา

ข้อดีของอาชีพเสริม ขายซาลาเปา

  1. ขายง่าย กำไรดี
  2. ทำครั้งเดียวเก็บไว้ได้นาน
  3. อุปกรณ์ไม่เยอะ ลงทุนไม่มาก ทุนไม่จม หากขายไม่หมด เก็บไว้ขายต่อวันถัดไปได้
  4. สามารถเพิ่มทางเลือกในการขายได้หลากหลาย

ข้อเสียของอาชีพเสริม ขายซาลาเปา

  1. คู่แข่งเยอะ
  2. ใช้เวลาทำค่อนข้างนาน

คำนวณต้นทุน+กำไรของอาชีพเสริม ขายซาลาเปา

ซาลาเปาหากเราลงมือทำเองจะค่อนข้างใช้เวลาทำ เพราะต้องรอให้แป้งเซ็ตตัว แต่ตอนทำสามารถทำครั้งเดียวแล้วเก็บไว้ขายหลายวันได้ แต่ถ้าจะให้ดี การทำวันต่อวันก็จะดีกว่า เพราะลูกค้าจะได้ของสดใหม่ แต่หากไม่สามารถทำวันต่อวันได้ ก็ให้เก็บไว้ให้ดี ในตู้แช่แข็งจะช่วยรักษาซาลาเปาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ โดยต้นทุนและกำไรของซาลาเปา ได้แก่

วัตถุดิบ ต้นทุน ราคาขาย กำไร
วัตถุดิบ+เครื่องปรุงในการทำซาลาเปา 1 ลูก (แป้ง+เนื้อหมู+ยีสต์+ผงฟู+น้ำตาล+เกลือ+ผัก+เครื่องปรุงต่างๆ) 4.98 บาท
ค่าแก็ส+ค่าถุง+น้ำจิ้ม 3 บาท
รวมต้นทุนซาลาเปา 1 ลูก 7.98 บาท 12 บาท 4.02 บาท

*** นั่นหมายความว่าซาลาเปา 1 ลูกได้กำไร 4.02 บาท หากเราขายหนึ่งวันได้ 100 ลูก เราจะมีรายได้ 402 บาท เป็นต้น

ขายส้มตำ

แค่ได้ยินชื่อส้มตำ คงทำให้หลายคนน้ำลายสอกันเลยใช่ไหมคะ เพราะส้มตำเป็นอาหารที่ถูกปากคนส่วนใหญ่ ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ จึงถือเป็นอาหารหนึ่งที่เหมาะสำหรับการทำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ และหากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังอยากจะขายส้มตำ ลองมาดูรายละเอียด ต้นทุนและกำไรกันดีกว่าค่ะ

จำนวนชั่วโมงทำงาน 1-4 ชั่วโมง / วัน
เงินลงทุนเริ่มต้น 1000-1500 บาท
เพศที่เหมาะ ทั้งชาย หญิงและเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะการขาย , ทักษะการทำอาหาร , ทักษะการโน้มน้าวจิตใจคน

ข้อดีข้อเสียของอาชีพขายส้มตำ

ข้อดีของอาชีพขายส้มตำ

  1. ลงทุนน้อย กำไรดี
  2. ทำง่าย ขายง่าย
  3. ขายได้ทุกเทศกาล ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ
  4. ใครๆก็เริ่มต้นได้ แถมยังขายเสริมกับอาหารอื่นๆได้

ข้อเสียของอาชีพขายส้มตำ

  1. ต้องมีฝีมือในการตำให้อร่อย รสชาติคงที
  2. คู่แข่งเยอะ

คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพขายส้มตำ

ใครๆก็ขายส้มตำ แต่ก็มีหลายคนนักที่ล้มเลิกไป การจะขายส้มตำให้ลูกค้าติดใจและได้กำไรดีนั้น ต้องฝึกฝนฝีมือในการตำให้อร่อยเหาะ ยิ่งถูกปากคนมากเท่าไร ลูกค้าก็จะยิ่งเยอะขึ้นเท่านั้น โดยหากคุณกำลังสนใจอยากขายส้มตำ อุปกรณ์ก็มีไม่กี่อย่างค่ะ คือ ครกกับสาก และอุปกรณ์ใส่วัตถุดิบอื่นๆเท่านั้นเอง โดยต้นทุนและกำไรของอาชีพขายส้มตำ ได้แก่

วัตถุดิบ ต้นทุน ราคาขาย กำไร
วัตถุดิบในการทำส้มตำ 1 ถุง (มะละกอ+แครอท+มะเขือเทศ+มะเขือเปราะ+มะนาว+พริก+ถั่วฝักยาว+ปูนึ่งหรือปูดอง+เครื่องปรุงต่างๆ) 13 บาท
ผักสดเอาไว้แกล้ม 2 บาท
ถุงใส่ส้มตำ+ถุงหิ้ว 0.5 บาท
รวมต้นทุนส้มตำ 1 ถุง 15.5 บาท 40 บาท 24.5 บาท

*** นั่นหมายความว่า ส้มตำ 1 ถุงเราจะได้กำไร 24.50 บาท หากหนึ่งวันเราขายส้มตำได้ 100 ถุง เราจะได้กำไร 2450 บาท เป็นต้น กำไรเยี่ยมมากๆเลยค่ะ

ขายไก่ทอด

ไก่ทอด เป็นอาหารคลาสสิคที่คนชอบทาน เพราะทานง่าย อร่อย สามารถทานที่ไหนเวลาไหนก็ได้ บางครั้งแค่ไก่ทอด 1ชิ้นกับข้าวเหนียวอีก 1 ห่อก็อิ่มไปทั้งวัน จึงไม่แปลกที่จะเห็นร้านขายไก่ทอดที่มีลูกค้ารอซื้อมากมาย อาชีพขายไก่ทอดจึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทำกำไรได้เป็นอย่างดีค่ะ ส่วนใครที่กำลังหาข้อมูลของการขายไก่ทอด เรามีรายละเอียดคร่าวๆพร้อมต้นทุนและกำไรมาฝากกันค่ะ

จำนวนชั่วโมงในการทำงาน 1-3 ชั่วโมง / วัน
เงินลงทุนเริ่มต้น 2000-3000 บาท (ยังไม่รวมรถเข็น)
เพศที่เหมาะ ทั้งเพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะการขาย , ทักษะการทำอาหาร , ทักษะในการเลือกวัตถุดิบ+เครื่องปรุงเครื่องหมักต่างๆ

ข้อดีข้อเสียของอาชีพขายไก่ทอด

ข้อดีของอาชีพขายไก่ทอด

  1. เป็นอาหารที่คนนิยม ทำให้ขายง่าย ใครๆก็รู้จัก ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาโปรโมทให้มากนัก
  2. กำไรดี ต้นทุนทั้งวัตถุดิบและอุปกรณ์ไม่มาก
  3. เสียเวลาจัดเตรียมไม่นาน ยิ่งถ้าทำประจำก็จะคล่องขึ้นและช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
  4. มีลูกค้าหลากหลาย สามารถขายได้ตลอดวัน หรือจะเลือกขายแค่บางช่วงเวลาก็ได้เหมือนกัน

ข้อเสียของอาชีพขายไก่ทอด

  1. กลิ่นตอนทอดจะแรงมาก หากอยู่ในเขตชุมชนอาจจะโดนบ้านใกล้เรือนเคียงหรือคนที่อยู่รอบๆเขม่นเอาได้
  2. น้ำมันทอดจะดำเร็ว เหม็นเร็ว หากไม่ดูแลจัดการให้ดี ลูกค้าอาจจะไม่อยากซื้อเอาได้

คำนวณต้นทุน+กำไร คร่าวๆ ของอาชีพขายไก่ทอด

อาชีพขายไก่ทอด นอกจากจะเป็นอาชีพที่ทำง่าย มีคนรู้จักเยอะแล้ว ยังเป็นอาชีพที่ขายง่ายและกำไรดีมาก ดังนั้นหากคุณกำลังอยากลองขายไก่ทอด แต่ยังลังเลไม่แน่ใจเพราะยังคำนวณต้นทุนและกำไรไม่เป็น ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเดี่ยวเราจะมาคำนวณต้นทุนและกำไรคร่าวๆของการขายไก่ทอดในแต่ละวันกันค่ะ

โดยทั่วไปแล้ว ไก่ทอดแต่ละชิ้นจะมีปริมาณที่ต่างกัน ไก่ทอดแต่ละส่วนก็ขายต่างกัน งั้นเดี๋ยวเราจะเอาแบบกลางๆมาคำนวณนะคะ โดยไก่ 1 ตัว สามารถแบ่งขายได้ 15 ชิ้นได้แก่

ชิ้นส่วนไก่ทอด ราคาโดยประมาณ (ขึ้นอยู่กับขนาด อาจปรับลดหรือเพิ่มได้) จำนวนที่ได้ / ไก่ 1 ตัว
น่องไก่ 20 บาท 2 ชิ้น
อกไก่ 25 บาท 4 ชิ้น
ปีกไก่ 25 บาท 2 ชิ้น
สะโพก 30 บาท 2 ชิ้น
คอไก่ 7 บาท 1 ชิ้น
ตีนไก่ 2 บาท 2 ชิ้น
เครื่องในไก่ 25 บาท 1 ชุด
โครงไก่ 20 บาท 1 ชิ้น

*** ไก่ 1 ตัว ขนาดกลางหากทอดมาแล้วจะใช้ชิ้นส่วนในการขายทั้งหมด 15 ชิ้น และหากขายตามราคาที่เราเฉลี่ยเอาไว้นี้ นั่นหมายความว่า ไก่ 1 ตัวเมื่อทอดออกมาแล้วจะขายได้ทั้งหมด 256 บาทโดยประมาณ (การตั้งราคาขายหากไม่แน่ใจลองไปซื้อร้านไก่ทอดสักร้านหนึ่งแล้วถามราคา จากนั้นค่อยซื้อมากินสักอย่างละชิ้นก็ได้ค่ะ เอามาเป็นวิทยาทานในการตัดสินใจค่ะ ช่วยได้)

วัตถุดิบ ต้นทุน ราคาขาย กำไร
ไก่สด 1 ตัว 50 บาท
แป้งทอดกรอบ 30 บาท
เกลือ+พริกไทย+ผงปรุงรส 5 บาท
น้ำมัน+แก็ส 50 บาท
น้ำจิ้ม 0.5 บาท
กระดาษห่อ+ถุง 0.5 บาท
รวมต้นทุนไก่ทอด 1 ตัว 136 บาท 256 บาท 120 บาท

*** นั่นหมายความว่า หากในหนึ่งวันสามารถขายไก่ทอดได้ประมาณ 3 ตัวจะได้กำไรทั้งหมด ราวๆ 360 บาท (ในส่วนของน้ำมันอาจจะเหลือทอดในวันถัดไปได้ ต้นทุนของอีกวันก็จะลดลง แต่น้ำมันทอดไก่ควรจะเปลี่ยนบ่อยๆเพื่ออนามัยที่ดีของคนกิน เช่น 2-3 วันเปลี่ยน 1 ครั้งเป็นต้น)

ขายข้าวเหนียวหมูทอด

ข้าวเหนียวหมูทอดห่อเล็กๆ แต่อร่อยและช่วยให้คนอิ่มท้องมาเยอะแล้ว ยิ่งเด็กๆที่ต้องไปโรงเรียน พนักงานที่ต้องเข้างานเข้า วินมอเตอร์ไซด์ที่ต้องวิ่งงานเช้าๆ หรือบุคคลทั่วไปที่ไม่มีเวลาในการทำอาหารเช้าและต้องรีบเดินทาง ข้าวเหนียวหมูทอดสักห่อนั้นช่วยเยียวยาร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่าดี หากคุณกำลังสนใจอยากทำอาชีพขายข้าวเหนียวหมูปิ้งแต่ยังไม่รู้รายละเอียดและยังไม่รู้ว่าต้องมีเงินทุนเท่าไร เราได้รวบรวมรายละเอียดการขายข้าวเหนียวหมูทอด พร้อมทั้งคำนวณต้นทุนและกำไรมาบอกค่ะ

จำนวนชั่วโมงการทำงาน 1-2 ชั่วโมง / วัน
เงินลงทุนเริ่มต้น 2000-3000 บาท (ยังไม่รวมล้อเข็น)
เพศที่เหมาะ ทั้งเพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก
ทักษะที่จำเป็น ทักษะการขาย , ทักษะการบริการ,ทักษะการโน้มน้าวใจ , ทักษะการทำอาหาร,ทักษะในการเลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุง

ข้อดีข้อเสียของอาชีพเสริมขายข้าวเหนียวหมูทอด

ข้อดีของอาชีพเสริมขายข้าวเหนียวหมูทอด

  1. ขายง่าย กำไรดี เพราะเป็นอาหารยอดนิยม
  2. ใช้เวลาในการเตรียมไม่นาน ทำให้มีเวลาเหลือเยอะ
  3. สามารถขายร่วมกับอาหารอื่นๆได้เพื่อเพิ่มรายได้ เช่น ไก่ทอด ลูกชิ้นทอด หรือของทอดต่างๆ
  4. อร่อย ขายได้ทุกฤดู ทุกเทศกาล ขายได้ตลอดทั้งวัน

ข้อเสียของอาชีพเสริมขายข้าวเหนียวหมูทอด

  1. น้ำมันอาจจะเหม็นหืนได้ง่ายและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนน้ำมันบ่อยๆ
  2. ราคาเนื้อหมูขึ้นลงอยู่บ่อยๆ แถมบางครั้งใบตองในการห่ออาจขาดตลาดได้บ่อยๆ

คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายข้าวเหนียวหมูทอดคร่าวๆ

อาชีพเสริมขายข้าวเหนียวหมูทอด เป็นอาชีพเสริมยุคใหม่ที่ขายง่าย ได้กำไรดี แถมยังทำง่าย บรรจุภัณฑ์ก็อนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะจะใช้ใบตองในการห่อ ทำให้ถูกใจคนยุคใหม่ที่มีใจรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งการจะเปิดร้านขายข้าวเหนียวหมูทอดนั้น อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ แก็ส+เตา+หม้อหรือกระทะสำหรับทอด รวมไปถึงอุปกรณ์ในการทอดต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้เชื่อว่าทุกบ้านต่างก็มีกันอยู่แล้ว หากกำลังเริ่มต้นใหม่และไม่อยากเสียเงินลงทุนเยอะ สามารถปรับใช้อุปกรณ์ที่เรามีก่อนได้ หากได้กำไรดีและมีลูกค้ามากมาย ค่อยๆขยับขยายก็ยังไม่สาย ส่วนใครที่กำลังอยากขายข้าวเหนียวหมูทอด เรามาดูต้นทุนและกำไรคร่าวๆกันดีกว่า

* โดยทั่วไปแล้ว หมู 1 กิโลเมื่อทอดออกมาแล้วจะเหลือน้ำหนักประมาณ 600 กรัม แบ่งขายห่อละ 50 กรัม ได้ 12 ห่อ

วัตถุดิบ ต้นทุน / หมู 1 กิโล ราคาขาย/ หมู 1 กิโล กำไร/ หมู 1 กิโล
หมู 1 กิโล 130 บาท
เครื่องปรุงต่างๆ 3 บาท
แก็ส+น้ำมัน 5 บาท
ต้นทุนหมู 1 กิโล 138 บาท 300 บาท 162 บาท

ต้นทุนและกำไรของการขายข้าวเหนียวหมูทอด 1 ห่อ (25 บาท ข้าวเหนียว 100 กรัม หมูทอด 50กรัม)

วัตถุดิบ ต้นทุน ราคาขาย กำไร
ข้าวเหนียวหมูทอด 1 ห่อ 11.50 บาท
ข้าวเหนียว 5 บาท
ค่าถุง+ค่าใบตองที่ใช้ห่อ+หนังยาง 3 บาท
รวมต้นทุนข้าวเหนียวหมูทอด 1 ห่อ 19.50 บาท 25 บาท 5.5 บาท

*** นั่นหมายความว่า หากหนึ่งวัน ขายข้าวเหนียวหมูทอดได้ทั้งหมด 100 ห่อ ก็จะได้กำไรที่ 550 บาท เป็นต้น

อยากทำอาชีพเสริมไม่จำเป็นต้องรอให้พร้อม แค่อยากทำก็ลงมือทำได้เลย

มีหลายคนที่คิดอยากทำอาชีพเสริมนู่น นี่นั่นเต็มไปหมด แต่ไม่เคยลงมือทำสักทีผลลัพธ์มันก็ไม่มีทางเกิดขึ้น บางคนก็มักจะรอให้พร้อมก่อน เช่นต้องซื้ออุปกรณ์ใหญ่ๆหรือใหม่ๆ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว เรายังไม่มีทางได้รู้เลยว่า อาชีพที่เราจะทำนั้นมันเวิร์คสำหรับเราหรือไม่ เพราะถ้าคำตอบคือไม่ นั่นหมายความว่า เราต้องเสียเงินลงทุนไปมากมายกับอุปกรณ์ต่างๆแต่กลับทำได้แค่แป๊ปเดียวเท่านั้น ทางที่ดี เราควรทดลองตลาด ทดลองขายไปก่อน ด้วยอุปกรณ์ที่เรามีอยู่ ซึ่งหากการทดลงไปได้สวยเราค่อยขยับขยายไปจะเหมาะสมกว่าค่ะ