ไม่ว่ายุคไหนๆคนส่วนใหญ่ก็อยากที่จะมองหารายได้เสริมด้วยกันทั้งนั้น ด้วยความที่ว่าการมีรายได้ทางเดียวนั้นค่อนข้างอันตรายเพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่า มันจะเกิดวิกฤตอะไรขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะ 2 ปีมานี้โลกเราต้องมาเผชิญกับวิกฤตโรคระบาด โควิด-19 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก แถมยังทำให้หลายคนตกงานกิจการฝืดเคืองกันเป็นแถบๆ การจะรอให้ทุกอย่างคลี่คลายลงโดยที่ไม่ทำอะไรเลยนั้นก็คงจะยาก ทำให้หลายคนมองหาอาชีพเสริมเพื่อเป็นทางรอดให้กับตนเองและครอบครัว
วันนี้ irecognize ของเราได้รวบรวม 5 วิธีสร้างรายได้จากอาชีพเสริมที่เหมาะสำหรับคนที่อยากขายอาหาร ที่ทำง่ายลงทุนน้อยแต่ขายง่ายกำไรดีมาเป็นทางเลือกดีๆให้กับทุกๆท่านกันค่ะ
อ่านบทความนี้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้
ขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง
อาชีพขายข้าวเหนียวหมูปิ้งถือเป็นอาชีพคู่กับคนไทยเรามาช้านาน เพราะข้าวเหนียวหมูปิ้งหาทานง่าย ราคาถูก เหมาะสำหรับคนที่ต้องเร่งรีบไปทำงานหรือเด็กๆที่รีบไปโรงเรียน สามารถทานที่ไหนก็ได้ แถมยังประหยัดมากๆแต่อิ่มท้องนาน การขายข้าวเหนียวหมูปิ้งจึงขายได้ตลอดไม่ต้องเสียเวลาทำการตลาดมากเพราะใครๆก็รู้จักดีอยู่แล้ว โดยรายละเอียดคร่าวๆของการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ได้แก่
จำนวนชั่วโมงการทำงาน | 1-3 ชั่วโมงต่อวัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 3000-5000 บาท (แต่อาจจะน้อยกว่านั้นหากคุณมีอุปกรณ์บางอย่างพร้อมอยู่แล้ว) |
เพศที่เหมาะ | ทุกเพศ ทุกวัย |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะการพูดจาโน้มน้าว |
ทักษะด้านการบริการ | ทักษะการทำอาหาร,การเลือกวัตถุดิบและการทำอาหาร |
ข้อดีข้อเสียของการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง
ทุกอาชีพจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป การศึกษารายละเอียด รวมถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละอาชีพเอาไว้ด้วย จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจที่จะเลือกประกอบอาชีพนั้นๆได้ โดยข้อดีและข้อเสียของการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ได้แก่
ข้อดีของการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง
- ใช้เงินลงทุนไม่เยอะ อุปกรณ์จำเป็นมีน้อย ไม่เกะกะ ยิ่งถ้าเรามีอุปกรณ์อยู่แล้วก็จะลดต้นทุนไปได้มาก
- ขั้นตอนการทำไม่ยาก แต่ขายง่าย ขายคล่อง ราคาถูก กำไรดี
- มีลูกค้าหลากหลาย ใช้เวลาน้อยมากในการขาย ไม่ต้องเตรียมอะไรมากมาย
- ใช้พื้นที่ไม่มาก แค่มีพื้นที่เล็กๆก็สามารถขายได้แล้ว เหมาะมากสำหรับการทำเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก
ข้อเสียของการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง
- การปิ้งโดยใช้เตาถ่านจะมีควันเยอะ อาจรบกวนบ้านเรือนใกล้เคียงหรือคนขายใกล้เคียงได้
- มีคู่แข่งเยอะและราคาของวัตถุดิบไม่คงที่อาจขึ้นลงตามราคาตลาด
คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง
เฉลี่ยแล้วหมู 1Kg จะได้ทั้งหมด 70 ไม้ หากขายหมูปิ้งได้วันละ 210 ไม้ (3Kg) จะได้เงินที่ 1050 บาท หักต้นทุน 545 บาท จะได้กำไร 505 บาท และถ้าขายทุกวัน 1 เดือนคุณจะมีรายได้ถึง 15150 บาท เลยทีเดียว
สนใจรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ขายข้าวไข่เจียว
ข้าวไข่เจียวอาจจะเป็นอาหารง่ายๆที่สามารถทำเองที่บ้านได้ แต่สำหรับคนทำงานช่วงเวลาที่เร่งด่วนบางครั้งแทบจะไม่มีเวลาเตรียมเลย การขายข้าวไข่เจียวง่ายๆจึงสามารถตอบโจทย์ของผู้คนได้ ทั้งพนักงานที่ซื้อไปกินเองหรือซื้อให้ลูกๆกินก่อนไปโรงเรียนก็ได้ทั้งนั้น ใครที่กำลังคิดจะขายข้าวไข่เจียวเป็นอาชีพเสริม ลองมาดูรายละเอียด ต้นทุนและกำไรกันดีกว่าค่ะ
จำนวนชั่วโมงทำงาน | 1-3 ชั่วโมงต่อวัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | ไม่เกิน 2000 บาท |
เพศที่เหมาะ | ทุกเพศ ทุกวัย |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะในการขาย , ทักษะการทำอาหาร |
ข้อดีข้อเสียของการขายข้าวไข่เจียว
ข้อดีของการขายข้าวไข่เจียว
- ทำง่าย ขายง่าย กำไรดี
- อร่อย ราคาถูก ต้นทุนไม่แพง ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่าย
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน อุปกรณ์มีไม่มาก เพราะทุกบ้านมีกันอยู่แล้ว
- มีเงินลงทุนน้อยก็ทำได้
ข้อเสียของการขายข้าวไข่เจียว
- คู่แข่งเยอะ ต้องลองสำรวจตลาดหรือทำเลดูก่อน ถ้ามีคนขายอยู่แล้วอาจทำให้ขายได้ยากขึ้น
คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายข้าวไข่เจียว
ข้าวไข่เจียวเป็นอาหารที่ทำทานเองง่ายๆ แต่ก็สามารถทำขายง่ายๆได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใหม่ๆที่ยังไม่มีทุนมากนักก็ลองเอาอุปกรณ์ของเราจากที่บ้านมาทำได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่ เพราะเชื่อว่าทุกบ้านน่าจะมีกันอยู่แล้ว เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนและลองตลาดดูก่อน หากว่ามีลูกค้าประจำและวิเคราะห์แล้วว่าน่าจะไปได้ดี ก็ค่อยๆขยับขยายทีหลังได้ โดยการคำนวณต้นทุนครั้งนี้เราจะตัดค่าอุปกรณ์ออกไปและแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ของเราที่มีที่บ้านมาใช้ก่อน โดยจะคำนวนเฉพาะค่าวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ต้องใช้เท่านั้นค่ะ
ปกติข้าวไข่เจียวกล่องละ 20 บาทจะใส่หมูหรือไส้กรอกและผักลงไปด้วย โดยต้นทุนของการขายข้าวไข่เจียววัตถุดิบและอุปกรณ์หลักๆ ได้แก่
วัตถุดิบ | ต้นทุน | ราคาขาย / กล่อง | กำไร / กล่อง |
---|---|---|---|
ไข่ไก่เบอร์ 2 | 3.5 บาท | – | – |
ข้าว 1 ถ้วย | 2 บาท | – | – |
เครื่องปรุง+เนื้อหมูบด+ผักต่างๆ | 5 บาท | – | – |
น้ำมันพืช+แก็ส | 3 บาท | – | – |
ค่าถุง+ค่ากล่อง+ช้อนพลาสติก | 3 บาท | – | – |
รวมต้นทุนทั้งหมด / กล่อง | 16.5 บาท | 20 บาท | 3.5 บาท |
หากขายกล่องละ 20 บาท จะได้กำไรกล่องละ 3.5 บาท หากขายได้วันละ 100 กล่อง ก็จะได้กำไรทั้งหมด 350 บาท
สนใจรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ขายลูกชิ้นทอดรวม
จำตอนสมัยเป็นเด็กกันได้ไหมคะ เวลาไปโรงเรียนก็จะมีลูกชิ้นทอดรวม ราดน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานเผ็ดนิดๆด้วย โดยลูกชิ้นทอดรวมเหล่านี้ก็จะมีขายตั้งแต่ 5 บาท เป็นต้นไป และวันนี้หากเราอยากจะเป็นแม่ค้าขายเอง เราต้องลงทุนอะไรบ้าง ต้นทุนแพงไหม ได้กำไรเท่าไร เดี๋ยวเราจะมาลองคำนวณต้นทุนทั้งหมดให้ได้รู้กันค่ะ
จำนวนชั่วโมงทำงาน | 2 ชั่วโมงต่อวัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 1500-2000 บาท |
เพศที่เหมาะ | เพศชาย เพศหญิงและเพศทางเลือก |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะการขาย , ทักษะการโน้มน้าวใจ , ทักษะการทำอาหาร |
ข้อดีข้อเสียของการขายลูกขิ้นทอดรวม
ลูกชิ้นทอดรวม ทำง่าย ขายง่าย เป็นขวัญใจเด็กๆและยังเป็นอาหารสุดอร่อยของทุกเพศทุกวัย การจะทำอาชีพนี้ก็ไม่ยาก วัตถุดิบก็หาซื้อง่าย แต่หากอยากลองขายจริงๆ เราต้องมาดูกันค่ะ ว่าอาชีพการขายลูกชิ้นทอดรวมมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง
ข้อดีของการขายลูกขิ้นทอดรวม
- ขายง่าย กำไรดี ใช้เวลาเตรียมไม่นาน
- มีอุปกรณ์ไม่มาก ไม่เกะกะ อุปกรณ์บางอย่างไม่จำเป็นต้นซื้อใหม่แค่เอาของที่บ้านมาปรับใช้ได้
- ถูกใจทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาโปรโมทให้เหนื่อย
- อร่อย ขายได้ทุกฤดู ทุกเทศกาล
ข้อเสียของการขายลูกขิ้นทอดรวม
- หากไม่มีรถพ่วงก็อาจจะลำบากเวลาฝนตกหรือลำบากเวลาเคลื่อนย้ายเพื่อไปขายยังสถานที่ต่างๆ
- น้ำมันต้องสะอาด หากไม่ใส่ใจลูกค้าอาจจะหนีได้
คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายลูกชิ้นทอดรวม
ลูกชิ้นทอดรวมสำหรับคนที่อยากทดลองขายหรือกำลังอยากเริ่มต้นในกรณีที่ค่อยๆทำอุปกรณ์ที่จำเป็นก็ได้แก่ แก็ส,หม้อทอด,น้ำมัน แต่หากอยากทำแบบรถพ่วงที่ไว้ขายตามงานต่างๆก็จำเป็นที่จะต้องทำล้อด้วย โดยหากต้องทำล้อใหม่อาจเสียเงินลงทุนประมาณ 5000-6000 บาท แต่หากอยากทดลองขาย แนะนำแค่เอาแก็สตั้งตั้งกับโต๊ะ 1 ตัวและหม้อทอดอีก 1 ใบก็พอแล้วค่ะ
โดยต้นทุนในส่วนของการขายลูกชิ้นทอดรวม ได้แก่
วัตถุดิบ | ต้นทุน | ราคาขาย 4 ชิ้น 5 บาท | กำไร |
---|---|---|---|
ลูกชิ้นหมูหรือไก่ 1 กิโลกรัม | 60 บาท (150 ลูก) | 185 บาท (เหลือ 2 ลูก) | 125 บาท |
ไส้กรอกแดง 1 กิโลกรม | 65 บาท (40 ชิ้น) | 150 บาท | 55 บาท |
ปลาเส้นทอด 1 กิโล(6 เส้น) | 72 บาท (84 ชิ้น) | 105 บาท | 33 บาท |
น้ำจิ้ม+น้ำมันพืช+แก็ส+ถุงหิ้ว+ไม้จิ้ม | 10 บาท | – | – |
รวมต้นทุนทั้งหมด | 207 บาท | 440 บาท | 233 บาท |
หากวันหนึ่งขายลูกชิ้นทอดรวมได้ทั้งหมด 9 กิโล ก็จะมีกำไร 699 บาท เป็นต้น
สนใจรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ขายเกี้ยวทอดกรอบ
เกี้ยวทอดกรอบเป็นได้ทั้งอาหารว่างและกับแกล้ม ปกติเกี้ยวทอดกรอบจะขายที่7 ชิ้น 20 บาท โดยจะมีการเพิ่มไส้ให้หลากขายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหมูสับ ไส้กรอก ปูอัด หรือลูกชิ้น เป็นต้น การขายเกี้ยวทอดกรอบสามารถทำขายควบคู่ไปกับลูกชิ้นทอดหรือลูกชิ้นทอดรวมได้ เพราะใช้อุปกรณ์เหมือนกัน ใครที่อยากเพิ่มรายได้และเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า สามารถเลือกทำพร้อมกันและขายด้วยกันได้ และเดี๋ยวเราจะมาดูข้อมูลจำเป็นที่ต้องรู้ถ้าอยากขายเกี้ยวทอดกรอบกันค่ะ
จำนวนชั่วโมงทำงาน | 1-2 ชั่วโมง |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 1,000-2,000 บาท |
เพศที่เหมาะ | ทั้งชาย หญิงและเพศทางเลือก |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะการขาย , ทักษะการทำอาหาร |
ข้อดีข้อเสียของขายเกี้ยวทอดกรอบ
ข้อดีของการขายเกี้ยวทอดกรอบ
- ขายง่าย ทำง่าย อร่อย ราคาถูก
- ลงทุนไม่แพง ตอนเริ่มต้นสามารถใช้อุปกรณ์ในครัวของเราได้
- กำไรดี ต้นทุนต่ำ ขายได้ราคาดี
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน และสามารถขายรวมกับของทอดชนิดอื่นๆได้
ข้อเสียของการขายเกี้ยวทอดกรอบ
- คู่แข่งเยอะ
- ต้องควบคุมน้ำมันให้ไม่มีกลิ่นแรงและเปลี่ยนน้ำมันบ่อยๆ
คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายเกี้ยวทอดกรอบ
การขายเกี้ยวทอดกรอบหากมีร้านขายของทอดอยู่แล้วหรือมีอุปกรณ์การทอดอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินเพิ่มเลย แต่ถ้ากำลังเริ่มต้น สิ่งที่ต้องมีคือ แก็ส,หม้อทอด,กระชอน,ที่คีบ ซึ่งของเหล่านี้สามารถใช้อุปกรณ์ที่บ้านเรามีได้โดยที่ไม่ต้องซื้อเพิ่ม ส่วนต้นทุนของวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่จำเป็น ได้แก่
วัตถุดิบ/ 1 ชิ้น | ต้นทุน/ 1 ชิ้น | ราคาขาย | กำไร |
---|---|---|---|
แผ่นเกี้ยว 1 แผ่น | 0.4 บาท | – | – |
ไส้ต่างๆ+เครื่องปรุง | 0.5 บาท | – | – |
ค่าแก็ส+น้ำมัน | 0.25 บาท | – | – |
ต้นทุนต่อ 1 ชิ้น | 1.15 บาท | 7 ชิ้น 20 บาท(7×1.15 =8.05 (บาท) | – |
ค่าถุง+น้ำจิ้ม+ไม้จิ้ม/1 ชุด | 3 บาท | – | – |
ต้นทุนรวมต่อ 1 ชุด | 11.05 บาท | 7 ชิ้น 20 บาท | 8.85 บาท / ชุด |
ดังนั้นหากหนึ่งวันขายเกี้ยวทอดกรอบได้ทั้งหมด 50 ชุด ก็จะได้กำไรทั้งหมด 442.5 บาท เป็นต้น
สนใจรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ขายสลัดโรล
ช่วงนี้คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น สลัดโรลจึงเป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีสารอาหารครบถ้วนแถมอร่อยอีกต่างหาก ที่สำคัญคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักก็จะเป็นลูกค้าชั้นดีของสลัดโรลเลยล่ะค่ะ การขายสลัดโรลยังสามารำขายร่วมกับสลัดผักต่างๆได้อีกด้วย จึงเหมือนเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าและเพิ่มรายได้ให้กับคนขายด้วย โดยใครที่กำลังสนใจจะขายสลัดโรล เรามาดูข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องรู้และคำนวณต้นทุน+กำไรคร่าวๆกันค่ะ
จำนวนชั่วโมงทำงาน | 1-2 ชั่วโมง |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | 500 บาท |
เพศที่เหมาะ | ทุกเพศทุกวัย |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะการขาย , ทักษะด้านการทำอาหาร |
ข้อดีข้อเสียของการขายสลัดโรล
สลัดโรลเป็นอาหารสำหรับสายรักสุขภาพ และยังเป็นอาหารที่ชื่นชอบของคนทั่วไปทุกเพศทุกวัย หากอยากเริ่มต้นขายสลัดโรล เรามาดูกันดีกว่าว่ามีข้อดีและข้อเสียที่ต้องระวังยังไงบ้าง
ข้อดีของการขายสลัดโรล
- ทำง่าย รายได้ดี ลูกค้าชื่นชอบ
- ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อะไรมาก แค่ถาด ถุงมือและอุปกรณ์ใส่วัตถุดิบเท่านั้น
- สามารถขายโดยแพคใส่กล่องและตั้งขายได้เลยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
- ไม่เหนื่อย ต้นทุนไม่สูงมาก ทำขายคนเดียวได้สบายๆ
ข้อเสียของการขายสลัดโรล
- ผักต้องสด สะอาด ไม่สามารถเก็บข้ามวันได้ แป้งอาจจะขาดง่ายทำให้ห่อออกมาได้ไม่สวย
- น้ำสลัดอาจบูดเสียได้ง่ายหากเก็บไม่ดีและ ควรทำวันต่อวันเพื่อป้องกันการบูดเสีย
คำนวณต้นทุน+กำไรของการขายสลัดโรล
สลัดโรลตามท้องตลาดจะมีหลายไส้ และใช้ผักหลายๆชนิดแล้วแต่คนขายจะใส่ลงไป แต่ทั่วๆไปแล้วจะใช้ผักกาดหอมเป็นหลักแล้วมีแครอท แตงกวา ส่วนไส้เองก็จะดัดแปลงเรื่อยๆ ทั้งไส้กรอก,ปูอัด,ปลาทูฉีกเส้นๆ,หมูยอ ฯลฯ โดยการทำสลัดโรลขายนิยมทำเป็นกล่องๆ กล่องละ 30 บาท มีสลัด 4 ชิ้น กับน้ำจิ้มอีก 1กระปุกเล็กๆ โดยต้นทุนในการขายสลัดโรลได้แก่
วัตถุดิบ | ต้นทุน / ชิ้น | ราคาขาย / กล่อง | กำไร |
---|---|---|---|
ใบเมี่ยงญวน 1 กก มี 80 แผ่น 1 แผ่นทำสลัดโรลขนาดเล็กได้ 4 ชิ้น | 2.7 บาท | – | – |
ผักต่างๆ เฉลี่ย | 0.5 บาท | – | – |
ไส้ต่าง เฉลี่ย | 1 บาท | 4 ชิ้น 30 บาท | – |
รวมต้นทุนต่อชิ้น | 4.2 บาท/ชิ้น =16.8 บาท/กล่อง | – | – |
กล่อง+น้ำสลัด | 4.69 บาท/กล่อง | – | – |
ต้นทุนรวมต่อกล่อง | 21.49 บาท | 30 บาท | 8.51 บาท |
นั่นก็หมายความว่าขายสลัดโรล 1 กล่องจะมีกำไร 8.51 บาท ถ้าขายได้วันละ 30 กล่อง ก็จะมีกำไร 255.3 บาท เป็นต้น (ทั้งนี้วัตถุดิบต่างๆอาจมีราคาสูงหรือลดลงตามท้องตลาดหากสามารถลดต้นทุนลงได้กำไรก็จะเพิ่มขึ้น)
สนใจรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
อาชีพเสริมสร้างรายได้ทุกอาชีพขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบ
การจำทำอาชีพเสริมให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เราควรเลือกทำอาชีพที่เราถนัด เพราะถ้าเราถนัด เราจะมีความเชี่ยวชาญและสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี แต่ในกรณีเริ่มต้นใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญอาชีพไหนเลย ก็ให้เลือกอาชีพที่เราชอบมากที่สุดก่อน จากนั้นก็หาทางลงมือทำ เมื่อเราได้ทำไปเรื่อยๆ เราก็จะมีความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้น
และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สักวันหนึ่งก็จะเก่งไปเอง การจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดหรอกค่ะ มันอยู่ที่เราฝึกฝนกันทั้งนั้น ขอให้เพื่อนๆทุกท่านที่กำลังมองหาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ขายดิบขายดีกิจการรุ่งเรือง ร่ำรวยเงินทองเยอะๆนะคะ