รู้ทัน กลโกงธุรกิจออนไลน์และวิธีป้องกันตัวเองไม่ตกเป็นเหยื่อ

ออนไลน์

รู้ทัน กลโกงธุรกิจออนไลน์และวิธีป้องกันตัวเองไม่ตกเป็นเหยื่อ

ในยุคดิจิทัลที่การลงทุนออนไลน์กำลังเฟื่องฟู ทุกคนต่างมองหาโอกาสทำเงินผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต แต่พร้อมๆ กับโอกาสเหล่านั้น ก็มีภัยร้ายแฝงมาในรูปแบบต่างๆ ที่พร้อมจะหลอกเอาเงินในกระเป๋าของคุณไปจนหมด แม้แต่คนดังหรือผู้มีชื่อเสียงก็อาจตกเป็นเหยื่อและพาคุณเข้าสู่หลุมพรางได้เช่นกัน! วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีป้องกันตัวจากการลงทุนที่อาจทำให้คุณเสียเงินและเสียใจกันอย่างละเอียด

สัญญาณอันตรายที่ต้องระวัง

  1. **สัญญาว่าจะรวยอย่างรวดเร็ว**:
    ถ้าใครบอกว่าลงทุนแล้วรวยภายใน 1-2 เดือน นั่นคือสัญญาณอันตรายชัดเจน! การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงมากในระยะเวลาสั้นๆ มักมาพร้อมกับความเสี่ยงสูงหรือเป็นการหลอกลวง ธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืนต้องใช้เวลาในการเติบโต ดังนั้นควรระวังคำโฆษณาที่เกินจริงเช่น “รวยภายใน 30 วัน” หรือ “กำไร 1000% ในเดือนเดียว”
  2. **เน้นชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุน**:
    ธุรกิจที่แท้จริงควรเน้นการขายสินค้าหรือบริการ ไม่ใช่ขายความฝันหรือโอกาส หากธุรกิจใดเน้นให้คุณชักชวนเพื่อนหรือคนรู้จักมาร่วมลงทุนมากกว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นั่นอาจเป็นสัญญาณของแชร์ลูกโซ่หรือธุรกิจเครือข่ายที่ไม่ยั่งยืน
  3. **ไม่มีสินค้าหรือบริการที่ชัดเจน**:
    ถ้าคุณไม่สามารถระบุได้ว่าธุรกิจนั้นกำลังขายอะไร หรือรายได้หลักมาจากไหน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเผชิญกับแชร์ลูกโซ่ ธุรกิจที่ดีต้องมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จับต้องได้และสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง
  4.  **อ้างอิงคนดังหรือผู้มีชื่อเสียง**:
    ระวังให้มาก! บ่อยครั้งที่มิจฉาชีพใช้ชื่อเสียงของคนดังเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ความจริงคือ บางครั้งคนดังเหล่านั้นก็อาจถูกหลอกเช่นกัน หรืออาจได้รับค่าจ้างให้มาโฆษณาโดยไม่ได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของธุรกิจอย่างถี่ถ้วน
  5. **เร่งรัดให้ตัดสินใจเร็วๆ**:
    ธุรกิจที่ดีย่อมให้เวลาคุณในการตัดสินใจ หากมีการกดดันให้คุณต้องตัดสินใจลงทุนทันทีเพราะ “โอกาสมีจำกัด” หรือ “ราคาจะขึ้นในเร็วๆ นี้” นั่นคือสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจน การเร่งรัดมักเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อไม่ให้คุณมีเวลาคิดทบทวนหรือตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ
  6. **ไม่มีใบอนุญาตหรือการรับรองที่ถูกต้อง**:
    ธุรกิจการลงทุนที่ถูกกฎหมายต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หากไม่สามารถแสดงใบอนุญาตหรือการรับรองที่ถูกต้องได้ ให้ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนภัยที่สำคัญ
  7. **ใช้ภาษาที่ซับซ้อนหรือคลุมเครือ**:
    หากคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีการทำกำไรหรือระบบการลงทุนใช้ภาษาที่เข้าใจยากหรือคลุมเครือ นั่นอาจเป็นวิธีการปกปิดความไม่ชอบมาพากลของธุรกิจ ธุรกิจที่โปร่งใสควรสามารถอธิบายการดำเนินงานได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย
  8.  **ไม่มีที่อยู่หรือข้อมูลติดต่อที่ชัดเจน**:
    ธุรกิจที่น่าเชื่อถือควรมีที่อยู่จริง เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางการติดต่อที่สามารถตรวจสอบได้ หากมีแต่ช่องทางออนไลน์เท่านั้น เช่น เพจโซเชียลมีเดีย หรืออีเมล ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
  9. **มีเรื่องร้องเรียนหรือรีวิวในแง่ลบจำนวนมาก**:
    ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรค้นหาข้อมูลและรีวิวจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หากพบว่ามีเรื่องร้องเรียนหรือความคิดเห็นในแง่ลบจำนวนมาก โดยเฉพาะเกี่ยวกับการหลอกลวงหรือการไม่จ่ายเงินคืน นั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
  10. **ใช้เทคโนโลยีหรือแนวคิดที่ซับซ้อนเกินความจำเป็น**:
    บางครั้งมิจฉาชีพอาจใช้คำศัพท์เทคนิคหรือแนวคิดที่ซับซ้อน เช่น บล็อกเชน AI หรือ big data เพื่อทำให้ธุรกิจดูน่าเชื่อถือ แต่เมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว อาจพบว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นจริงๆ

วิธีป้องกันตัวจากการลงทุนหลอกลวง

  1. **ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน**:
    – ค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ไม่ใช่แค่จากเว็บไซต์หรือเอกสารที่บริษัทให้มา
    – ตรวจสอบประวัติของบริษัทและผู้บริหาร รวมถึงผลการดำเนินงานในอดีต
    – ศึกษาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนนั้นๆ อย่างรอบด้าน
    – อ่านเงื่อนไขและข้อตกลงอย่างละเอียด โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการถอนเงินหรือยกเลิกการลงทุน
  2. **ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ**:
    – ค้นหาข้อมูลบริษัทจากแหล่งข้อมูลทางการ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงาน ก.ล.ต.
    – ตรวจสอบว่าบริษัทมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือไม่
    – สอบถามความคิดเห็นจากผู้ที่เคยลงทุนจริง ไม่ใช่แค่พรีเซนเตอร์หรือตัวแทนขาย
    – ระวังการใช้ชื่อหรือโลโก้ที่คล้ายคลึงกับบริษัทที่มีชื่อเสียง ซึ่งอาจเป็นการแอบอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
  3. **ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ**:
    – คุยกับนักการเงินหรือที่ปรึกษาการลงทุนที่มีใบอนุญาตและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจนั้น
    – ขอความเห็นจากนักกฎหมายเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อตกลงในสัญญา
    – ปรึกษาผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนั้นๆ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ของธุรกิจ
    – หากเป็นไปได้ ให้ขอคำแนะนำจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
  4. **อย่าลงทุนเกินกำลัง**:
    – กำหนดงบประมาณสำหรับการลงทุนที่คุณสามารถสูญเสียได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิต
    – แบ่งเงินลงทุนเป็นส่วนๆ อย่าทุ่มเงินทั้งหมดลงไปในครั้งเดียว
    – ตั้งวงเงินสูงสุดที่คุณยอมรับได้หากเกิดการสูญเสีย และยึดมั่นในขีดจำกัดนั้น
    – พิจารณาการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเงินระยะยาว ไม่ใช่ทางลัดสู่ความร่ำรวย
  5. **ใช้สามัญสำนึก**:
    – หากข้อเสนอดูดีเกินจริง มันอาจจะไม่จริงก็ได้
    – ไว้วางใจสัญชาตญาณของตัวเอง หากรู้สึกไม่สบายใจ อย่าเพิ่งลงทุน
    – ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมโอกาสดีๆ แบบนี้ถึงมาถึงคุณ
    – อย่าตัดสินใจเพราะแรงกดดันทางสังคมหรือความกลัวที่จะพลาดโอกาส
  6. **ระวังการหลอกลวงทางออนไลน์**:
    – ตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์ก่อนกรอกข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงิน
    – ระมัดระวังอีเมลหรือข้อความที่อ้างว่ามาจากสถาบันการเงินหรือหน่วยงานรัฐ
    – อย่าคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
    – ใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและไม่ซ้ำกันสำหรับบัญชีออนไลน์แต่ละบัญชี
  7. **เข้าใจกลไกการทำงานของธุรกิจ**:
    – พยายามทำความเข้าใจว่าธุรกิจนั้นสร้างรายได้อย่างไร
    – ถามคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับโมเดลธุรกิจและกระบวนการสร้างผลกำไร
    – หากไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเงินมาจากไหนและทำไมถึงได้ผลตอบแทนสูง ให้ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนภัย
  8. **ตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือของผู้เกี่ยวข้อง**:
    – ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหารและทีมงานหลักของบริษัท
    – ตรวจสอบว่ามีประวัติการถูกฟ้องร้องหรือการกระทำผิดทางการเงินหรือไม่
    – ระวังการใช้ชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริง
  9. **เตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยง**:
    – เข้าใจว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แม้แต่การลงทุนที่ดูปลอดภัยที่สุด
    – พิจารณาสถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้นและประเมินว่าคุณจะรับมือได้หรือไม่
    – มีแผนสำรองในกรณีที่การลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
  10. **ติดตามข่าวสารและแนวโน้มการหลอกลวงใหม่ๆ**:
    – ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ
    – เรียนรู้เทคนิคการหลอกลวงใหม่ๆ ที่มิจฉาชีพใช้
    – แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์กับคนรอบข้างเพื่อช่วยกันระวังภัย

กฎทองในการลงทุนอย่างปลอดภัย

การลงทุนที่ชาญฉลาดไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่มาจากการยึดมั่นในหลักการที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ดังนั้นเรามาเรียนรู้ 10 กฎทองที่จะช่วยปกป้องเงินของคุณและสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนกันนะคะ

  1. **เข้าใจธุรกิจที่จะลงทุน**:
    – หากคุณไม่สามารถอธิบายให้เด็ก 10 ขวบเข้าใจได้ว่าธุรกิจนั้นทำงานอย่างไร อย่าเพิ่งลงทุน
    – ศึกษาอุตสาหกรรมและตลาดที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนนั้นๆ
    – ทำความเข้าใจกับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวของธุรกิจ
  2. **ตั้งคำถามเชิงลึก**:
    – อย่ากลัวที่จะถามคำถามยากๆ ธุรกิจที่โปร่งใสย่อมมีคำตอบ
    – สอบถามเกี่ยวกับความเสี่ยงและข้อเสียของการลงทุน ไม่ใช่แค่ข้อดี
    – ถามเกี่ยวกับแผนรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย
  3. **ไม่ตัดสินใจเพราะอารมณ์**:
    – อย่าให้ความกลัวพลาดโอกาสหรือความโลภครอบงำการตัดสินใจ
    – ใช้เหตุผลและข้อมูลเป็นหลักในการพิจารณา ไม่ใช่ความรู้สึกชั่วขณะ
    – หลีกเลี่ยงการตัดสินใจเมื่ออยู่ในภาวะกดดันหรือเร่งรีบ
  4.  **มองหาทางออก**:
    – ก่อนลงทุน ต้องรู้ว่าจะถอนเงินออกมาได้อย่างไรและเมื่อไหร่
    – ศึกษาเงื่อนไขการยกเลิกการลงทุนหรือการขายคืน
    – ประเมินสภาพคล่องของการลงทุน โดยเฉพาะในกรณีที่คุณอาจต้องการเงินกลับในระยะสั้น
  5. **เชื่อสัญชาตญาณ**:
    – หากรู้สึกไม่สบายใจ แม้ทุกอย่างดูดีบนกระดาษ ให้ยึดความรู้สึกของตัวเองไว้ก่อน
    – ใช้เวลาในการไตร่ตรองและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมหากยังไม่มั่นใจ
    – อย่าละเลยสัญญาณเตือนภัยเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในอนาคต
  6. **กระจายความเสี่ยง**:
    – อย่าลงทุนทั้งหมดในที่เดียว แม้จะดูดีแค่ไหนก็ตาม
    – กระจายการลงทุนในหลายๆ ประเภทสินทรัพย์และอุตสาหกรรม
    – พิจารณาการลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายในประเทศ
  7.  **มีความอดทนและมุมมองระยะยาว**:
    – การลงทุนที่ดีมักต้องใช้เวลา อย่าคาดหวังผลตอบแทนมหาศาลในระยะสั้น
    – เตรียมใจรับมือกับความผันผวนในระยะสั้น โดยมุ่งเน้นเป้าหมายระยะยาว
    – ทบทวนและปรับแผนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าหวั่นไหวกับความผันผวนชั่วคราว
  8. **ศึกษาอย่างต่อเนื่อง**:
    – โลกการลงทุนเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอด
    – เข้าร่วมสัมมนาหรือหลักสูตรเกี่ยวกับการลงทุนจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
    – ติดตามข่าวสารและแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อการลงทุนของคุณ
  9. **รักษาความลับทางการเงิน**:
    – ระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินส่วนตัว โดยเฉพาะในโลกออนไลน์
    – อย่าหลงเชื่อคนแปลกหน้าที่อ้างว่ามีโอกาสการลงทุนที่ดีเยี่ยม
    – ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อมีคนขอข้อมูลบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต
  10. **เตรียมพร้อมสำหรับภาษี**:
    – ศึกษาภาระภาษีที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนแต่ละประเภท
    – เก็บบันทึกการลงทุนอย่างเป็นระบบเพื่อใช้ในการยื่นภาษี
    – พิจารณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อวางแผนการลงทุนที่มีประสิทธิภาพทางภาษี

จำไว้ว่า ไม่มีการลงทุนไหนที่ได้ผลตอบแทนสูงโดยไม่มีความเสี่ยง การรู้จักป้องกันตัวเองและใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบคือวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาเงินทองของคุณ อย่าให้ความฝันที่จะรวยทำให้คุณต้องสูญเสียเงินที่หามาด้วยความยากลำบาก

การดำเนินการเมื่อพบเห็นการหลอกลวง

หากคุณพบเห็นหรือสงสัยว่ามีการหลอกลวงทางการเงิน ควรดำเนินการดังนี้:

  1. **แจ้งเบาะแส**: รายงานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ก.ล.ต. หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)
  2. **เก็บหลักฐาน**: เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น อีเมล ข้อความ เอกสาร หรือบันทึกการสนทนา เพื่อใช้ประกอบการร้องเรียนหรือดำเนินคดี
  3. **แจ้งเตือนผู้อื่น**: แบ่งปันประสบการณ์และข้อมูลกับคนรอบข้างเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อเพิ่มเติม
  4. **ขอความช่วยเหลือ**: หากคุณตกเป็นเหยื่อ อย่าอายที่จะขอความช่วยเหลือจากครอบครัว เพื่อน หรือผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายและการเงิน
  5. **ปรับปรุงความปลอดภัย**: ทบทวนและเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีออนไลน์และข้อมูลส่วนตัวของคุณเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงในอนาคต

บทสรุป

การลงทุนออนไลน์สามารถเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความมั่งคั่ง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและภัยคุกคามจากมิจฉาชีพที่พยายามหลอกลวงนักลงทุนที่ไม่ระมัดระวัง การป้องกันตัวเองจากการหลอกลวงทางการเงินไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้จักใช้วิจารณญาณ ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน และไม่ด่วนตัดสินใจเพราะความโลภหรือความกลัวที่จะพลาดโอกาส

จงจำไว้ว่า:
– หากมีอะไรที่ดูเกินจริง มันมักจะไม่จริง
– การลงทุนที่ดีต้องใช้เวลาและความอดทน ไม่มีทางลัดสู่ความร่ำรวย
– ความรู้คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด จงศึกษาและเรียนรู้อยู่เสมอ
– อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ
– เชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเอง หากรู้สึกไม่สบายใจ อย่าเพิ่งลงทุน

ด้วยความระมัดระวังและการศึกษาที่เหมาะสม คุณสามารถลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงและสร้างโอกาสในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว จงฉลาดและรอบคอบในการจัดการกับเงินของคุณ เพราะในที่สุดแล้ว ไม่มีใครห่วงใยผลประโยชน์ของคุณได้มากไปกว่าตัวคุณเอง

การลงทุนอย่างชาญฉลาดไม่ใช่เพียงแค่การหาผลตอบแทนสูงสุด แต่ยังรวมถึงการปกป้องสินทรัพย์ของคุณจากภัยคุกคามต่างๆ ด้วย ด้วยความรู้และความระมัดระวัง คุณจะสามารถก้าวไปสู่อนาคตทางการเงินที่มั่นคงและปลอดภัยได้อย่างแน่นอน

Related post

Featured post

Recent post Recommend post
  1. ประกันชีวิตแบบบำนาญ ทางเลือกเพื่อความมั่นคงหลังเกษียณ

  2. เกษียณอย่างมีความสุข: การเตรียมตัวด้านจิตใจและสังคม

  3. 7 เหตุผลที่คุณต้องวางแผนเกษียณตั้งแต่วันนี้

  4. เกษียณอย่างมั่นคง กับ 10 วิธีการวางแผนเกษียณอย่างชาญฉลาดตั้งแต่วันนี้

  5. รู้ทัน กลโกงธุรกิจออนไลน์และวิธีป้องกันตัวเองไม่ตกเป็นเหยื่อ

  6. 7 เทคนิคเลือกซื้อทุเรียนสุก หวานและไม่เจอทุเรียนอ่อน

  7. คู่รักเกมเมอร์ต้องมี! 5 ไอเดียของขวัญสุดเท่ เอาใจขาเกมตัวจริง

  8. 5 วิธีสร้างรายได้ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)

  9. สอนทำอีบุ๊คขายด้วยการใช้ Chat GPT

  10. ChatGPT คืออะไร และเราจะใช้ ChatGPT ทำเงินได้ยังไง

  1. อยากลงทุนเล่นเกม Axie Infinity ด้วยตัวเองต้องทำยังไงบ้าง มือใหม่ไม่ควรพลาด

  2. หารายได้จากอาชีพเสริมทำ Scholarship เล่นเกมได้เงิน

  3. 10 อาชีพอิสระที่น่าสนใจ 2564

  4. Affiliate คืออะไร เริ่มต้นยังไงและมีที่ไหนบ้าง

  5. สอนทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขายสำหรับมือใหม่ อาชีพอิสระ เพิ่มรายได้ทำง่ายด้วยตัวเอง

  6. วิธีการสร้างรายได้จาก Facebook ด้วย  facebook ads break

  7. สอนเขียนบทความTrueID In-Trend รับเงินง่ายๆแม้อยู่ที่บ้าน

  8. ตกงาน ไม่มีเงิน ต้องอ่าน! 4 งานออนไลน์ 2020 ที่ทำแล้วได้เงินเลย ไม่ต้องรอนาน

  9. อยากหาเงินกับ Google Adsense ต้องทำยังไง

  10. ชี้เป้า รับจ้างเขียนบทความ มือใหม่เขียนที่ไหนได้เงินบ้าง

บทความแนะนำ

  1. อยากลงทุนเล่นเกม Axie Infinity ด้วยตัวเองต้องทำยังไงบ้าง มือใหม่ไม่ควรพลาด

  2. หารายได้จากอาชีพเสริมทำ Scholarship เล่นเกมได้เงิน

  3. 10 อาชีพอิสระที่น่าสนใจ 2564

  4. Affiliate คืออะไร เริ่มต้นยังไงและมีที่ไหนบ้าง

  5. สอนทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขายสำหรับมือใหม่ อาชีพอิสระ เพิ่มรายได้ทำง่ายด้วยตัวเอง

TOP