ข้าวใครเจียวเชื่อว่าใครๆก็ทำเป็น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถทำได้ เพราะบางครั้งอาจติดที่เวลากระชั้นชิด หากต้องมานั่งหุงข้าวและเจียวไข่อาจจะทำให้ไปทำงานสาย เป็นต้น จึงเป็นที่มาของคนที่มีไอเดียดีๆในการทำข้าวไข่เจียวขาย ซึ่งแค่ได้ยินหลายคนอาจจะคิดว่า ก็ง่ายขนาดนี้จะมีคนซื้อเหรอ คำตอบคือ มีค่ะ มีเยอะด้วย และอาชีพขายข้าวไข่เจียวเองก็สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว ยิ่งบ้านเราอยู่ใกล้โรงเรียน โรงงานหรือสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านด้วยแล้ว ถือว่ายิ่งได้เปรียบเลยล่ะค่ะ และใครที่กำลังสนใจหรืออยากขายข้าวไข่เจียวแต่ยังกล้าๆกลัวๆอยู่ ลองอ่านรายละเอียดของการทำข้าวไข่เจียวขายที่เราได้รวบรวมมาเหล่านี้ดูก่อนนะคะ ไม่แน่ว่าบางทีแค่อ่านจบคุณอาจจะตัดสินใจได้ในทันที
อ่านบทความนี้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้
- สูตรข้าวไข่เจียว
- ข้อมูลอาชีพเสริม : ขายข้าวไข่เจียว
- อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการขายข้าวไข่เจียว
- แหล่งจำหน่ายวัตถุดิบปลีกส่ง
- ข้อดีข้อเสียของการขายข้าวไข่เจียว
- คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายข้าวไข่เจียว
- ช่วงเวลาทำเงิน
- กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
- การเพิ่มจุดเด่นและความหลากหลายของสินค้า
- เทคนิคการเพิ่มยอดขายและเพิ่มกำไร
- เทคนิคที่ทำให้ชนะคู่แข่ง
- อุปสรรคของอาชีพขายข้าวไข่เจียว
- การขายข้าวไข่เจียว อาชีพเสริมทำง่าย ขายง่าย รายได้ดี
สูตรข้าวไข่เจียว
สนใจรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ข้อมูลอาชีพเสริม : ขายข้าวไข่เจียว
จำนวนชั่วโมงการทำงาน | 1-3 ชั่วโมงต่อวัน |
---|---|
เงินลงทุนเริ่มต้น | ไม่เกิน 2000 บาท |
เพศที่เหมาะสม | ทุกเพศ ทุกวัย |
ทักษะที่จำเป็น | ทักษะในการขาย , ทักษะการทำอาหาร |
ทำเลขายของ | หน้าโรงเรียน , หน้าโรงงาน , หน้าโรงพยาบาล , ตลาดสด , หรือสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน |
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการขายข้าวไข่เจียว
อุปกรณ์ | ราคา |
---|---|
แก็ส+เตา | ของใหม่ราคาประมาณ 1800-2000 บาท แต่หากที่บ้านมีอยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวก |
กระทะสำหรับทอด | 100-200 บาท (ราคาจะขึ้นอยู่กับวัสดุแลขนาด) หากทำขายเริ่มต้นสามารถใช้กระทะที่บ้านแทนได้ |
ตะหลิว | 20-200 (ราคาขึ้นอยู่กับวัสดุ และความทนทาน) |
ถ้วย+ช้อน | 20-40 บาท |
กล่องที่มีฝาปิดไว้ใส่ผัก ,หมู หรือเครื่องปรุงต่างๆ | 20 บาท/กล่อง |
ที่คีบอาหาร (ใช้คีบหมู,ผักหรือเครื่องปรุงต่างๆ) | 10-20 บาท |
ถาดวาง | 100 บาท (จะมีหรือไม่มีก็ได้) |
โต๊ะสำหรับวางขาย | 300 บาท (หากมีอยู่แล้วก็เอามาใช้ได้) |
กล่องใส่อาหาร | 80-300 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับวัสดุ) |
ช้อนพลาสติก | 20 บาท |
ถุงพลาสติก | 10 บาท |
แหล่งจำหน่ายวัตถุดิบปลีกส่ง
- ตลาดสด – ตลาดสดจะเป็นสถานที่รวมของขายมากมาย ซึ่งการไปตลาดสดหนึ่งครั้งเราจะได้วัตถุดิบในการขายข้าวไข่เจียวครบถ้วน แถมได้ราคาถูกหากเราซื้อเป็นโหลๆ
- ห้างสรรพสินค้าทั่วไป – ห้างสรรพสินค้าจะมีไข่ไก่สด ,ปูอัด ,เนื้อหมูทั้งสดและแช่แข็งที่ราคาถูก สะอาดถูกสุขอนามัย แถมบางครั้งยังมีโปรลดราคา ซึ่งถึงแม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็มองเป็นกำไรทางหนึ่งได้
- ร้วแทนจำหน่ายในพื้นที่ – สินค้าพวกลูกชิ้น,ไส้กรอก,ปูอัดต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายจากผู้ผลิตโดยตรงในแต่ละพื้นที่ ซึ่งราคาบางร้าน อาจจะถูกหรือแพงกว่าตลาดสด แต่บางทีหากเราเป็นสมาชิกก็จะสามารถซื้อสินค้าในราคาส่วนลดได้ หรือเก็บสะสมแต้มไว้เป็นส่วนลดได้
ข้อดีข้อเสียของการขายข้าวไข่เจียว
ข้อดีของการขายข้าวไข่เจียว
- ทำง่าย ขายง่าย กำไรดี
- อร่อย ราคาถูก ต้นทุนไม่แพง ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่าย
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน อุปกรณ์มีไม่มาก เพราะทุกบ้านมีกันอยู่แล้ว
- มีเงินลงทุนน้อยก็ทำได้
ข้อเสียของการขายข้าวไข่เจียว
- คู่แข่งเยอะ ต้องลองสำรวจตลาดหรือทำเลดูก่อน ถ้ามีคนขายอยู่แล้วอาจทำให้ขายได้ยากขึ้น
คำนวณต้นทุน+กำไร ของอาชีพเสริมขายข้าวไข่เจียว
ข้าวไข่เจียวเป็นอาหารที่ทำทานเองง่ายๆ แต่ก็สามารถทำขายง่ายๆได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใหม่ๆที่ยังไม่มีทุนมากนักก็ลองเอาอุปกรณ์ของเราจากที่บ้านมาทำได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่ เพราะเชื่อว่าทุกบ้านน่าจะมีกันอยู่แล้ว เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนและลองตลาดดูก่อน หากว่ามีลูกค้าประจำและวิเคราะห์แล้วว่าน่าจะไปได้ดี ก็ค่อยๆขยับขยายทีหลังได้ โดยการคำนวณต้นทุนครั้งนี้เราจะตัดค่าอุปกรณ์ออกไปและแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ของเราที่มีที่บ้านมาใช้ก่อน โดยจะคำนวณเฉพาะค่าวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ต้องใช้เท่านั้นค่ะ
ปกติข้าวไข่เจียวกล่องละ 20 บาทจะใส่หมูหรือไส้กรอกและผักลงไปด้วย โดยต้นทุนของการขายข้าวไข่เจียววัตถุดิบและอุปกรณ์หลักๆ ได้แก่
วัตถุดิบ + อุปกรณ์ | ต้นทุน / กล่อง | ราคาขาย / กล่อง | กำไร / กล่อง |
---|---|---|---|
ไข่ไก่เบอร์ 2 | 3.5 บาท | – | – |
ข้าวสวย 1 ถ้วย | 2 บาท | – | – |
เครื่องปรุง+เนื้อหมูบด+ไส้กรอก+ผักต่างๆ | 5 บาท | – | – |
น้ำมันพืช+แก็ส | 3 บาท | – | – |
ค่าถุง+ค่ากล่อง+ช้อนพลาสติก | 3 บาท | – | – |
รวมต้นทุนข้าวไข่เจียว 1 กล่อง | 16.5 บาท | 20 บาท | 3.5 บาท |
*** หากขายกล่องละ 20 บาท จะได้กำไรกล่องละ 3.5 บาท หากขายได้วันละ 100 กล่อง ก็จะได้กำไรทั้งหมด 350 บาท เป็นต้น
*** ปกติ 20 บาทจะใส่หมูและผักนิดหน่อย แต่หากใส่ไส้กรอก, ปูอัด,หมูยอ ฯลฯ อาจจะขายที่กล่องละ 25 บาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากสามารถซื้อวัตถุดิบในราคาที่ถูกลงก็จะช่วยเพิ่มกำไรที่จะได้รับได้)
ช่วงเวลาทำเงิน
- ช่วงเช้า-ก่อนเด็กๆไปโรงเรียนหรือก่อนไปทำงาน
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
- เด็กนักเรียนทั้งเด็กเล็กและเด็กโต ที่ผู้ปกครองไม่ทันทำอาหาร
- พนักงานโรงงานหรือคนทำงานที่ต้องเร่งรีบในตอนเช้า ไม่มีเวลาทำอาหาร
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการรับประทานข้าวไข่เจียว
- นักท่องเที่ยวทั่วไป
การเพิ่มจุดเด่นและความหลากหลายของสินค้า
ข้าวไข่เจียวในท้องตลาดจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากเท่าไร แต่สามารถทำให้ร้านของคุณแตกต่างจากคนอื่นด้วยรสชาติและวัตถุดิบที่ใช้ทำ เช่นเลือกไข่สด ,ผักสด หรือเครื่องปรุงที่ทำสดใหม่ และพยายามให้ไข่ออกมาสวยงามไม่อมน้ำมัน
เทคนิคการเพิ่มยอดขายและเพิ่มกำไร
ปกติหากขายข้าวไข่เจียวใส่ผักนิดหน่อยจะขายที่ประมาณ 15 บาท หากใส่หมูเพิ่มจะขายที่ 20 บาท แต่หากใส่ไส้กรอก ปูอัก หมูยอหรืออื่นๆอาจจะเพิ่มราคาเป็น 25-30 บาทได้ ทั้งนั้นทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับไส้และปริมาณของไส้ที่ใส่เพิ่มไป นอกจากนี้อาจมีการจัดโปรในช่วงเปิดร้านแรกๆเช่น อาจจะมีคูปองสะสม ซื้อครบ 20 กล่องแลกฟรีได้ 1 กล่องเป็นต้น
เทคนิคที่ทำให้ชนะคู่แข่ง
- ความสะอาดในการทำ ความสะอาดของอุปกรณ์ วัสดุ เครื่องปรุง และการแต่งกายของพ่อค้าแม่ค้า
- ให้ปริมาณเยอะคุ้มค่า
- ความอร่อย หน้าตาสวยงาม
- ไม่อมน้ำมัน
- ไข่ที่ยังคงความกรอบอยู่เสมอ
- ใช้น้ำมันใหม่ตลอดเพื่อความหอมและไม่เหม็นหืน
- ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ หลีกเลี่ยงการใช้ของค้างคืน
อุปสรรคของอาชีพขายข้าวไข่เจียว
- คู่แข่งเยอะ เพราะทำง่าย ใครๆก็ทำได้
- มีทางเลือกอาหารหลากหลาย ลูกค้าอาจจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ก็ได้
- ไข่ไก่เวลาตอก ควรตอกทีละฟอง หากจะใส่สองฟอง ควรตอกทีละฟองแยกคนละถ้วย เพราะหากไข่ใบหนึ่งเสีย อีกใบจะไม่เสียตามไปด้วย
การขายข้าวไข่เจียว อาชีพเสริมทำง่าย ขายง่าย รายได้ดี
ข้าวไข่เจียวที่ใครๆก็คิดว่าทำง่ายขนาดนี้ใครมันจะมาซื้อ หารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้ว เมนูง่ายๆนี่แหละที่ขายดี เพราะทำง่ายก็ทำได้ไว สะดวก อิ่มท้องเข้ากันดีกับยุคแห่งความเร่งรีบ ยิ่งถ้าทำเลที่ขายของคุณอยู่ติดหรือใกล้กับโรงเรียน โรงงาน ตลาดสด โรงพยาบาลหรือที่ๆมีคนพลุกพล่านด้วยล่ะก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้ ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักก็ดีทั้งนั้น ใครที่กำลังลังเลอยู่ รีบตัดสินใจได้แล้วนะ