เห็นหลายคนเปิดขายของออนไลน์แล้วขายดีมาก เขาทำยังไง และหากเราก็ อยากขายของออนไลน์ บ้าง เราจะขายอะไรดี แล้วมันจะขายได้ไหม แล้วไม่มีทุนแต่อยากขายจะหาสินค้าจากไหนมาขาย และหากอยากขายเราต้องเริ่มยังไงให้มีลูกค้าติดใจและมาซื้อซ้ำ วันนี้เรามีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ
“อยากขายของออนไลน์จะเอาอะไรมาขายดีล่ะ” คาดว่าคนที่อยากขายของคงคิดวนกับคำถามนี้มาแล้วหลายสิบรอบ การขายของออนไลน์นั้นหากอยากขายดีและกำไรดี ไม่ใช่แค่ว่า ถ่ายรูปสินค้าแล้วมาโพสต์ขายแล้วนั่งรอคนมาซื้อเท่านั้นนะคะ ความจริงแล้วมันมีอะไรที่มากกว่านั้นเยอะ สิ่งแรกก็คือ ก่อนที่คิดจะขายของออนไลน์ คุณต้องคิดให้ออกก่อนว่า
- สินค้านั้นคุณจะขายใคร
- ลูกค้าของคุณคือกลุ่มไหน
- กลุ่มลูกค้านั้น ๆ เขาสนใจและอยากรู้เรื่องอะไร
- สินค้าของคุณสามารถตอบโจทย์ที่เขาต้องการได้ไหม ?
หากคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้คุณก็จะเห็นทางออกว่าคุณควรจะเอาสินค้าอะไรมาขาย นอกจากนี้การขายของออนไลน์หากอยากมีลูกค้าที่เหนียวแน่นคุณต้องขายสินค้าที่สามารถแก้ปัญหาให้กับเขาได้จริง ๆ ใช่ว่าสักแต่จะขายเมื่อลูกค้าซื้อไปแล้วจะเป็นยังไงก็ช่าง อันนี้เตรียมตัวเจ๊งได้เลยค่ะ เราไม่แนะนำนะ เราเป็นคนขายเราต้องขายของที่แก้ปัญหาลูกค้าได้จริง มันเหมือนเวลาลูกค้าเขาคิดถึงหนทางแก้ไขปัญหาเขาจะคิดถึงเราเป็นอันดับแรก และหากลูกค้านั้นได้ทดลองซื้อสินค้ากับคุณและเขาพึงพอใจเขาก็จะเป็นลูกค้าที่เหนียวแน่นของคุณแถมยังไปบอกต่อเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีปัญหาเช่นเดียวกับเขาอีกด้วย เยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ
ไอเดียในการหาสินค้ามาขาย
แต่ก่อนที่เพื่อน ๆ จะได้ลูกค้าที่เหนียวแน่นตามที่บอกไป เพื่อน ๆ ต้องอดทน ตั้งใจ และใช้เวลานิดหน่อย สมมุติว่า เพื่อน ๆ ชอบการวิ่ง แล้วอยากขายสินค้าให้กับคนที่ชื่นชอบการวิ่งเหมือนกัน นั่นหมายความว่า เพื่อน ๆ ได้ตอบโจทย์ข้อแรกและข้อสองแล้ว นั่นคือ สินค้าที่เพื่อน ๆ จะขายนั้นจะขายให้กับกลุ่มนักวิ่งหรือคนที่ชอบการวิ่ง หรือมือใหม่อยากวิ่ง
แล้วมาที่ข้อ 3 กลุ่มนักวิ่งเขาอยากรู้เรื่องอะไร ซึ่งคุณที่ชอบวิ่งอยู่แล้วน่าจะรู้ดีนะคะ ว่ากลุ่มของนักวิ่งนั้นเขาอยากรู้และสนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ อาจจะเช่น รองเท้าแบบไหนใส่วิ่งแล้วไม่ปวดเข่า เทคนิคการวอร์มร่างกายยังไงไม่ให้เกิดการบาดเจ็บจากการวิ่ง หรือเทคนิคการวิ่งตลอดโดยไม่เหนื่อย ฯลฯ
เมื่อรู้ความสนใจหรือปัญหาของกลุ่มลูกค้าแล้ว คุณก็ลองมาหาสินค้าที่คุณจะขาย แล้วศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาของลูกค้าและหนทางแก้ปัญหาที่สามารถโยงเข้ากับสินค้าที่จะขายได้ เช่น คุณขายรองเท้านักวิ่ง คุณก็อาจจะบอกถึงคุณสมบัติรองเท้าวิ่งของคุณนั้นแก้ปัญหาให้กับลูกค้ายังไงบ้าง
และเมื่อคุณมีสินค้า รู้ข้อมูลและคนที่จะขายแล้ว ก็เริ่มทำการขายค่ะ การขายนั้นหากยกตัวอย่างเกี่ยวกับขายรองเท้าที่เหมาะสำหรับนักวิ่ง คุณอาจจะต้องเข้าไปร่วมกลุ่มที่เขารวมคนที่สนใจการวิ่ง แล้วคอยส่งข้อมูลที่เป้นประโยชน์เข้ากลุ่มเพื่อให้คนจำคุณได้ จากนั้นค่อยทำการขายเนียนๆไปกับประโยชน์ที่ให้ไป หรือไม่คุณอาจจะเปิดแฟนเพจเฟซบุ๊ก ช่อง Youtube หรือเว็บไซต์ แล้วให้ความรู้เกี่ยวกับการวิ่งที่คุณมีอยู่ ยิ่งคุณมีความรู้และรู้วิธีการแก้ปัญหามากเท่าไร คนที่เขามีปัญหาแบบเดียวกันแต่ยังไม่รู้ทางออกก็จะเข้ามาเจอคุณได้ไม่ยาก และคนเหล่านั้นแหละค่ะที่จะเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต
ที่แนะนำให้เพื่อนๆให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆก่อน นั่นเป็นเพราะ หากเพื่อนๆอยู่ๆเข้าไปขายโดยตรงเลย คนเหล่านั้นจะไม่สนใจหรือเกิดความรู้สึกรำคาญ เพราะคนเรามักจะไม่ชอบหรือต่อต้านเวลามีคนมาขายโต้งๆอยู่แล้ว การที่เราให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับเขาก่อน มันก็เหมือนการสร้างความไว้ใจและเชื่อใจว่าคุณนั้นเก่งและมีข้อมูลที่เขาต้องการจริง อีกทั้งยังสร้างความคุ้นเคยอีกด้วย และเมื่อคุณขายของพวกเขาก็จะซื้อโดยที่ไม่ต่อต้านหรือพร้อมที่จะสนับสนุนนั่นเองค่ะ
นอกจากจะขายผ่านทาง Facebook และเว็บไซต์แล้ว เพื่อนๆอาจจะเปิดร้านขายกับ Lazada หรือ Shopee ด้วยก็ได้ หรือหากเพื่อนๆมีความรู้ทางด้านภาษาร่วมด้วย อาจจะขายให้ต่างชาติด้วยก็ได้อย่างเว็บไซต์ Amazon ค่ะ แต่หากอยากให้สินค้าไปได้ไกลและรวดเร้วลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี คลิก ที่นี่
อยากขายของออนไลน์ต้องลงมือทำ
จะเห็นได้ว่าไอเดียการหาของมาขายออนไลน์เหล่านี้สามารถเอาไปปรับใช้กับของที่เพื่อนๆอยากขายได้ หรือหากเพื่อนๆไม่รู้จะเอาสินค้าอะไรมาขายจริงๆ แต่วิเคราะห์แล้วว่าอยากขายให้ลูกค้ากลุ่มไหน ก็ลองดูกลุ่มลูกค้าของเพื่อนๆว่าเขาสนใจเรื่องอะไร ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่เพื่อนๆจะขายก็ คือกลุ่มคนที่สนใจการวิ่ง เพื่อนๆก็ไปดุว่าคนกลุ่มนี้เขาน่าจะซื้อสินค้าอะไรบ้าง ซึ่งหากให้เราเดาเอาเองจากที่เราเห็น อาจจะเป็นพวก รองเท้าวิ่ง กางเกงวิ่ง ขวดน้ำแบบพกพา ปลอกแขนหรือที่หนีบแขนสำหรับใส่โทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงผ้าขนหนูซับเหงื่อหรือขายตัวเองไปเป็นเพื่อนวิ่งด้วยก็ไม่เลวนะ